ฉีดฟิลเลอร์คาง

คางไม่สวย คางสั้น คางไม่ได้รูป อยากปรับคางให้สมส่วน อยากมีคางที่สวยงาม เข้ามาฟังกันทางนี้ การปรับรูปคางเราอาจจะนึกถึงการทำศัลยกรรม การผ่าตัด ที่ต้องใช้เวลามาก ใช้เงินมาก และใช้เวลารักษาตัวนาน

ซึ่งทำให้เราได้รับความไม่สะดวกในหลายๆ ด้าน จนทำให้หลายคนยกเลิกที่จะปรับรูปคางของตัวเอง แต่เดี๋ยวก่อน นั่นเพราะคุณยังไม่รู้ว่า มันมีอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยคุณได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการ ฉีดฟิลเลอร์คาง แบบเจาะลึก แล้วคุณจะแทบไม่อยากเชื่อว่ามันมีวิธีง่ายๆ และดีๆ แบบนี้ด้วยเหรอ

ฉีดฟิลเลอร์คาง ข้อห้าม

สิ่งที่ควรรู้ก่อนรับการฉีดฟิลเลอร์คาง สิ่งต้องห้าม หากคุณอยู่เกณฑ์เหล่านี้ขอแนะนำว่าห้ามฉีดฟิลเลอร์คางโดยเด็ดขาด แต่ถ้าอยากฉีดจริงๆ ต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

• ห้ามมีประวัติเป็นภูมิแพ้สาร Anaphylaxis ควรศึกษาก่อนว่าสารฟิลเลอร์ที่เราจะฉีดเข้าไป ร่างกายของเราแพ้หรือไม่ 
• ห้ามมีประวัติแพ้ยาชา
• ห้ามมีประวัติ มีปัญหาเลือดออกง่าย หรือเลือดหยุดไหลยาก
• ห้ามทานยาละลายลิ่มเลือดมาก่อน
• ห้ามสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร

นอกจากนี้ต้องปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น เพื่อขอรับคำแนะนำต่างๆ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์คาง

ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม

อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์คาง เกิดขึ้นได้น้อยมาก จะเกิดได้จากการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานเท่านั้น หากว่าฟิลเลอร์ที่ใช้ได้รับการรับรองจาก อย. และรับบริการจากสถานบริการที่มีคุณภาพ การฉีดฟิลเลอร์คางจะไม่มีอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น

ฉีดฟิลเลอร์คาง ในประเทศไทย ถือว่าเป็นเทคนิคใหม่ในวงการศัลยกรรมทางการแพทย์ สาร Hyaluronic Acid  คือสารที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยเพื่อใช้ในการฉีดฟิลเลอร์คาง ทำให้ผิวเกิดความเต่งตึง อวบอิ่ม และช่วยปรับรูปร่างของใบหน้า สามารถใช้ฉีดบริเวณ ร่องแก้ม คาง จมูก ปาก หน้าผาก เพื่อปรับแต่งได้ตามต้องการ และมีความปลอดภัยสูง

ฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ไหนดี

ในประเทศไทยมีคลินิก และสถานบริการมากมาย ที่เปิดให้บริการ ฉีดฟิลเลอร์คาง แต่ละสถานที่นั้นก็มีข้อดี ข้อเสีย และราคาแตกต่างกันออกไป จริงๆ แล้วเราสามารถศึกษาคุณภาพของสถานบริการต่างๆ ได้จากกระทู้รีวิวเสริมความงาม ซึ่งคนส่วนมากนิยมแชร์ และบอกเล่าประสบการณ์ของตนเอง ทำให้เราได้รู้รายละเอียดอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับสถานบริการนั้นๆ

 

ในสถานบริการจำนวนมาก หนึ่งแห่งที่เราอยากแนะนำคือ V Square Clinic สถานบริการเสริมความงาม ที่ได้มาตรฐานระดับสากล เป็นที่ยอมรับของผู้ใช้บริการจำนวนมาก มีคนพูดถึงในข้อดีต่างๆ หลากหลายการรีวิว และหลากหลายมุมมอง มีแพทย์เฉพาะทางจำนวนมาก เดินทางสะดวกเพราะว่ามีถึง 10 สาขาทั่วกรุงเทพ ราคาไม่แพง และนอกจากการฉีดฟิลเลอร์แล้ว ยังรับทำ โบท็อก ร้อยไหม และอื่นๆ อีกหลายอย่างที่เกี่ยวกับการเสริมความงาม

V Square Clinic เน้นย้ำเรื่องของการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยเท่านั้น ใช้เครื่องมือที่ทันสมัย และพนักงานทั้งหมด พร้อมกับเหล่าทีมงานได้รับการคัดเลือกมาเฉพาะคนที่มีประสบการณ์สูง มีดารานิยมใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งสามารถการันตรีได้ว่า V Square Clinic มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และสามารถไว้วางใจได้ เพราะว่าเรื่องสำคัญของการเสริมงามต่างๆ นั้น คือเรื่องของความปลอดภัย และผลข้างเคียงที่จะตามมา

ให้ทุกเรื่องของการเสริมความงามเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น และสบายใจทุกครั้งหลังการใช้บริการ  V Square Clinic

ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคา

ฉีดฟิลเลอร์คาง ถือว่าเป็นการศัลยกรรมอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก  และมีราคาไม่แพง สามารถจับต้องได้ โดยทั่วไปราคาจะเริ่มต้นที่ 10,000 บาท หรือมากกว่า 20,000 ตามแต่ละสถานบริการ เนื่องจากสารฟิลเลอร์ที่ใช้แตกต่างกัน และเครื่องมือที่ใช้มีความแตกต่างกัน

ฟิลเลอร์คาง กี่ CC

จริงๆ แล้วเราไม่สามารถระบุแบบตายตัวได้เลย ว่าการฉีดฟิลเลอร์คางนั้นจะต้องใช้สารฟิลเลอร์ประมาณกี่ CC เพราะรูปคางของแต่คนแตกต่างกันออกไป จะฉีดมาก หรือว่าน้อย ขึ้นอยู่กับความต้องการของการปรับรูปร่างคางของแต่ละคน แต่โดยส่วนมากแล้วนิยมฉีดกันครั้งแรกประมาณ 1 CC

ฉีดฟิลเลอร์คางดีไหม

ฟิลเลอร์ ที่นิยมใช้ คือสาร Hyaluronic Acid หรือเรียกสั้นๆ ว่า HA ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เพราะว่าเป็นสารประกอบของคอลลาเจนเหมือนกับที่อยู่ในผิวหนังของคนเรา สามารถใช้เติมแต้ม ร่อง หลุม บริเวณชั้นใต้ผิวหนัง หรือบริเวณที่ต้องการของร่างกายได้อย่างไม่เป็นอันตราย

         เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์คางให้ผลดีมาก ทั้งประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย และดูแลหลังการฉีดง่ายกว่าศัลยกรรมแบบอื่นๆ ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมาก สามารถช่วยเติมเต็มในส่วนที่บกพร่องได้อย่างง่ายดาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่การฉีดฟิลเลอร์คางจะกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง

ฉีดฟิลเลอร์คาง บวมกี่วัน ดูแลหลังการฉีดอย่างไรดี

การฉีดฟิลเลอร์คางใช้เวลาเพียงแค่ 10 – 30 นาที หลังการฉีดจะมีอาการบวมเล็กน้อย และหายไปเองภายใน 3 – 5 วัน สิ่งที่เราต้องดูแลหลังการฉีดคือ

• 48 ชั่วโมงแรก ห้ามให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้รับความร้อน เช่น ห้ามตากแดด ห้ามใช้ไดร์เป่าผม ห้ามอาบน้ำร้อน เป็นต้น ห้ามจับ สัมผัส ลูบคลำ นวด คลึง เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียรูป
• 4 วันแรกควรดื่มน้ำในปริมาณมาก อย่างน้อยวันละ 8 แก้วขึ้นไป
• งดทานยา หรือสิ่งที่ต่างๆ ที่จะไปกระตุ้นให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน , วิตามินอี เป็นต้น
• 2 วันแรก งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หรือถ้าจะให้ดีควรงดให้เกิน 4 วันแรกจะได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนมากกว่า

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง

อย่างที่เรารู้กันว่าการฉีดฟิลเลอร์จะสามารถคงสภาพอยู่ได้ไม่นานนัก เพราะว่าเป็นสารที่สามารถสลายไปเองได้ เพราะฉะนั้นเราต้องฉีดเติมเข้าไปเมื่อฟิลเลอร์ย่อยสลายแล้ว โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปีเป็นอย่างมาก หรืออาจจะน้อยกว่า 1 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับร่างกาย และการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง

• ไม่ต้องพักฟื้น ฉีดเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย
• ให้ผลเร็ว ทันใจ ฉีดเสร็จเห็นผลทันที และจะเห็นผลอย่างชัดเจนเมื่อผ่านไปประมาณ 4 วัน
• ไม่เจ็บ ไม่มีอันตราย ราคาถูก จะมีรอยแผลเล็กๆ แดงๆ จากการฉีดฟิลเลอร์เพียงเล็กน้อย แต่จะหายไปใน 3 – 5 วัน
• เมื่อฉีดเสร็จแล้วหากไม่พอใจ สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ตามต้องการ
• ไม่มีปัญหาเรื่องคางย้อยผิดรูป ไม่มีผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง แต่ต้องได้รับการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้การรับรองมาตรฐานจาก อย. เท่านั้น
• การฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคการเสริมกระดูก จะเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้รูปทรงของคางอยู่ได้นานมากขึ้น และไม่ทำให้เนื้อคางผิดรูป

ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดเสริมคาง ?

ขอแนะนำสำหรับคนที่ปัญหาเรื่องคาง หากอยากได้คางที่ยาวขึ้นมากกว่า 1 เซนติเมตร ควรใช้การผ่าตัด เพราะว่าการฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อให้ได้คางยาวขึ้นมากกว่า 1 เซนติเมตรต้องฉีดทับกันในส่วนของเนื้อคางชั้นตื้น และอาจมีผลข้างเคียงตามมาในภายหลัง

การผ่าตัดเสริมคางจะใช้วิธีการสอด Silicone เข้าไปข้างในใต้เยื่อหุ้มกระดูก เพราะฉะนั้น Silicone ต้องติดแน่นกับกระดูก เทคนิคเหล่านี้ต้องใช้ความระมัดระวัง และต้องได้รับการผ่าตัดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะว่าอาจจะมีผลกระทบกับเส้นประสาท ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมาในภายหลัง เช่น ปากเบี้ยว เป็นต้น

ฟิลเลอร์คาง และ ผ่าตัดเสริมคาง ทั้งสองวิธีนี้ แม้ว่าจะช่วยให้คางได้รูปมากยิ่งขึ้น แต่ว่าวิธีการ และเทคนิคนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัย ค่าใช้จ่าย และการรักษาตัว เพราะฉะนั้นหากว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องคางที่ผิดรูปมากนัก ขอแนะนำให้ใช้การฉีดฟิลเลอร์คางจะดีที่สุด เพราะว่าปลอดภัยกว่า ประหยัดกว่า และมีอันตรายน้อยกว่า

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ฟิลเลอร์คาง หวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจไป ฉีดฟิลเลอร์กันนะ