สำหรับใครที่อยากปรับแก้รูปหน้า แต่ไม่อยากผ่าตัด คงจะนึกถึงการฉีดฟิลเลอร์เป็นอันดับแรก ๆ เพราะเป็นหัตถการที่ใช้เพียงเข็มฉีดสารเติมเต็ม ไม่ต้องผ่าเปิดแผล ไม่ต้องพักฟื้นนาน และยังเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีดอีกด้วย
บทความนี้ได้รวบรวมสิ่งที่ทุกคนควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์มาฝากค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลเลอร์ คืออะไร ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? อันตรายไหม ? เลือกยี่ห้อไหนดี ? ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ ? ฉีดที่ไหนดี ? และทำไมควรหลีกเลี่ยงฟิลเลอร์ปลอม ?
ฟิลเลอร์ คือ?
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มจำพวก Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิค แอซิด) หรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า HA ค่ะ เป็นตัวช่วยสำคัญในการแก้ปัญหาริ้วรอย และปรับรูปหน้า
เมื่อคนเรามีวัยเพิ่มมากขึ้นเส้นใยคอลลาเจนในโครงสร้างผิวจะลดลง ริ้วรอยร่องลึกจึงปรากฏเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีการคิดค้นสิ่งที่จะมาทดแทนเส้นใยคอลลาเจนที่ลดน้อยลง ในที่สุดก็พัฒนาฟิลเลอร์ขึ้นมา เพื่อช่วยให้ริ้วรอยลดลง ผิวมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด
อันตรายจาก การฉีดฟิลเลอร์ปลอม น่ากลัวมากแค่ไหน ทำไมถึงควรหลีกเลี่ยง ?
ฟิลเลอร์ปลอม อันตรายมากค่ะ เพราะเป็นสารที่ไม่สามารถย่อยสลายได้หมด เช่น ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน เมื่อฉีดไปแล้วจะเกิดเป็นก้อนแข็ง บวมแดง ย้อยผิดรูป หน้าแข็งดูไม่เป็นธรรมชาติ อักเสบติดเชื้อ หรือก่อให้เกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ได้ ที่หนักสุดคือเสี่ยงตาบอดหรือเกิดเนื้อตายตามมา
ในกรณีที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น จำเป็นต้องผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ ทำให้ต้องเจ็บตัวหลายรอบและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก
เราจึงควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกมากจนน่าแปลกใจ เพราะอาจจะเป็นฟิลเลอร์ที่ลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และอันตรายค่ะ
บริเวณใดบ้างที่สามารถฉีดเติมเต็มด้วย ฟิลเลอร์ ได้ ?
บริเวณต่างๆ บนใบหน้าที่จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุดหลังจากฉีดฟิลเลอร์ มีด้วยกัน 7 จุด
คนจำนวนมากที่อยากจะลดริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า ซึ่งบริเวณสำคัญ 7 จุดดังต่อไปนี้ คือตำแหน่งที่แพทย์แนะนำว่าหากเติมฟิลเลอร์แล้วจะสามารถเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
- ฟิลเลอร์ปาก ใช้ปริมาณฟิลเลอร์เพียงเล็กน้อย แต่สามารถช่วยปรับเปลี่ยนรูปทรงริมฝีปาก และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของปากได้อย่างเห็นผล เช่น ริ้วรอยร่องลึกที่ขอบปาก ปากแห้ง หรือริมฝีปากบางไม่ได้รูป
- ฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับคนที่อยากปรับรูปหน้าให้เรียวสวยเป็นวีเชฟ หรือปรับให้ใบหน้าได้สัดส่วนดูสมมาตรมากขึ้น โดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเสริมคางให้เจ็บตัว
- ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ เครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเห็นได้ชัด ช่วยทดแทนการยุบตัวลงของกระดูกบริเวณใต้ตาจากวัยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงแก้ใต้ตาคล้ำ หรือริ้วรอยใต้ตา ปรับให้ดวงตาดูสดใส
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คุณหมอจะมีเทคนิคต่าง ๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างตรงจุด และเหมาะสมกับสาเหตุเกิดร่องแก้มของคนไข้แต่ละคน ช่วยคืนความสดใสและอ่อนกว่าวัยให้ใบหน้าของเราได้อีกครั้ง
- ฟิลเลอร์ขมับ ช่วยเติมแอ่งลึกบริเวณขมับให้เต็ม แก้ขมับตอบ ปรับให้ใบหน้าโดยรวมได้สัดส่วน และดูอ่อนหวานมากขึ้น รวมถึงยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่า ผู้ที่มีขมับเต็มสวยจะได้รับทรัพย์เพิ่มขึ้น และมีคนคอยให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริมทางด้านการค้าขาย การทำธุรกิจให้เจริญรุ่งเรือง
- ฟิลเลอร์หน้าผาก จากความเชื่อที่ว่าคนที่มีหน้าผากโหนกนูนจะมีวาสนาดี ช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ได้สามีฐานะดีให้การดูแลอย่างสุขสบาย และฟิลเลอร์ยังสามารถปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
- ฟิลเลอร์จมูก ผลลัพธ์ที่ได้จะมีความเป็นธรรมชาติมากค่ะ เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว เพียงแค่ต้องการเพิ่มความคมให้บริเวณปลายจมูกหรือสันจมูกขึ้นอีกเล็กน้อย และเป็นผู้ที่กลัวการผ่าตัดเสริมซิลิโคนจมูกมาก ๆ
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์
ขอบคุณตัวอย่างเคสรีวิวการฉีดฟิลเลอร์จาก V Square Clinic ค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ มีอันตรายไหม ? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?
ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม คือคำถามยอดฮิตของคนอยากเสริมความงามบนใบหน้าแต่ยังกลัวว่าจะเกิดผลข้างเคียงหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ อาจเพราะเคยได้ยินว่าบางคนฉีด filler แล้วเกิดเป็นก้อน หรือบวมย้อยจนผิดรูป
ก่อนอื่นควรทราบข้อมูลก่อนว่า หากเราฉีดฟิลเลอร์แท้ คือสารเติมเต็มประเภท HA (Hyaluronic Acid) เท่านั้น จะปลอดภัยอย่างแน่นอน เพราะสลายไปเองตามธรรมชาติได้หมด 100%
Video ตัวอย่างการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติมเต็มในชั้นผิว
(ตัวอย่าง แสดงถึงการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติมเต็มในชั้นผิว)
หากแต่ในบางประเทศ เมื่อกล่าวถึง ฟิลเลอร์ (Filler) ในทางการแพทย์ จะหมายถึง การฉีดสารเติมเต็ม (Injectible Filler) ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 ชนิด ได้แก่
ภาพตัวอย่างการทดสอบเนื้อฟิลเลอร์แท้
- Hyaluronic Acid (HA) ได้รับความนิยมสูงสุด และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เนื่องจากปลอดภัยสูง สามารถสลายไปเองได้ทั้งหมด
- Biosynthetic polymers ซึ่งไม่ปลอดภัย และไม่ผ่านอย. เป็นกลุ่มของซิลิโคนเหลว ไม่สามารถสลายไปเองได้
- คอลลาเจนที่สกัดมาจากสัตว์ อาจก่อให้เกิดอาการบวมแดง แพ้ได้ง่าย จึงไม่นิยมใช้ในปัจจุบัน
- การเติมไขมัน (หรือ Transplanted Fat) เหมาะสำหรับผู้ที่อยากจะฉีดปริมาณมากในแต่ละครั้ง เช่น ครั้งละ 10-20 CC เป็นต้น
แต่ถ้าเป็นในเมืองไทย เมื่อกล่าวถึง ฟิลเลอร์ จะหมายถึง Hyaluronic Acid ที่เป็นฟิลเลอร์ของแท้ ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. เรียบร้อยแล้ว ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัย
การเลือกฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี และความคงทนของแต่ละรุ่น/ยี่ห้อ ว่าอยู่ได้นานเพียงไร ?
รายละเอียดด้านล่างนี้คือ 3 ฟิลเลอร์ยี่ห้อหลัก ที่มีคนนิยมใช้กันมาก ซึ่งนำเข้าจาก 3 ประเทศ ได้แก่
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane – จากสวีเดน
- Restylane รุ่น Classic สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane รุ่น Vital light สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Restylane รุ่น Perlane lyft สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane รุ่น Refyne สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane รุ่น Volyme สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane รุ่น Defyne สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm – จากอเมริกา
- Juvederm รุ่น Ultra Plus สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm รุ่น Volift สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm รุ่น Volite สามารถอยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Juvederm รุ่น Volbella สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm รุ่น Voluma สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero – จากสวิตเซอร์แลนด์
- Belotero รุ่น Volume สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero รุ่น Intense สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero รุ่น Soft สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Belotero รุ่น Revive สามารถอยู่ได้นาน 6-9 เดือน
แนะนำให้เข้าไปปรึกษาคุณหมอที่คลินิกก่อนค่ะ เพราะหมอจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด ว่าปัญหาและสภาพผิวหน้าของเรานั้น เหมาะที่จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ/รุ่นไหนดี ? เนื่องจากยังไม่มี ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหน หรือรุ่นไหนที่ดีที่สุด ที่จะสามารถนำไปฉีดได้ทุกสภาพผิวและตอบโจทย์ได้ทุกตำแหน่งบนใบหน้า
การแก้ไขปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์
ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบในคนที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฉีดกับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือฉีดฟิลเลอร์กับหมอที่ขาดประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง มีดังนี้
- เกิดเป็นก้อนแข็ง
- มีอาการบวมเกิดขึ้น
- กดไม่ลง ขาดความเป็นธรรมชาติ
สำหรับคนที่ฉีดฟิลเลอร์ไประยะหนึ่งแล้วพบอาการบวม เป็นก้อนแข็ง กดไม่ลง เป็นปัญหาทำให้กังวลและเสียความมั่นใจ แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยถึงสาเหตุค่ะ โดยควรเตรียมข้อมูลการฉีดฟิลเลอร์ครั้งก่อนให้ครบถ้วน เช่น ยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณที่ฉีด และตำแหน่งที่ฉีด
ในกรณีที่หมอใช้ฟิลเลอร์ของแท้ Hyaluronic Acid ในการฉีด สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้เอนไซม์ที่มีชื่อว่า Hyaluronidase ฉีดสลายฟิลเลอร์เก่าให้ละลายออกไปบางส่วน หรือสลายไปให้หมดทั้ง 100% ซึ่งจะช่วยสลายฟิลเลอร์ส่วนที่ไม่ต้องการออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และปรับให้ผิวกลับคืนสภาพเดิมได้
ทั้งนี้ หากเราต้องการจะฉีดฟิลเลอร์ครั้งใหม่ ควรเลือกฉีดกับคุณหมอที่มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องแม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ ราคาในแต่ละจุดต่างกันหรือไม่ ? แพงไหม ?
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,000.- บาท
- ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7,900.- บาท
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 11,000.- บาท
- ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9,900.- บาท
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7,900.- บาท
- ฉีดฟิลเลอร์จมูก ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,000.- บาท
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,000.- บาท
ฉีดฟิลเลอร์เลือกที่ไหนดี ? ข้อควรพิจารณาในการเลือกคลินิก filler
ก่อนตัดสินใจเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง เราควรพิจารณาคลินิกที่กำลังให้ความสนใจอยู่ก่อนว่า ได้มาตรฐานหรือไม่ มีความปลอดภัย และคุณภาพดีเพียงพอ เนื่องจากมีคลินิกความงามที่รับฉีดฟิลเลอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวันนี้
- คุณหมอที่มากประสบการณ์ น่าไว้วางใจ
- คลินิกแห่งนั้นต้องได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข จึงเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ โดยเช็กได้จากเลขใบอนุญาต 11 หลัก ที่แสดงอยู่ด้านหน้าคลินิกค่ะ
- ตั้งราคาฉีดฟิลเลอร์ไว้อย่างสมเหตุสมผล ไม่แพงหรือถูกจนเกินไป และใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น
- หลังฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง ควรมีการนัดเพื่อติดตามผล
- สามารถนัดคิวล่วงหน้าได้ และคลินิกควรตั้งอยู่ในแหล่งที่เดินทางสะดวก สถานที่สะดวกสบาย กว้างขวาง ไม่อึดอัดคับแคบ
- ศึกษาข้อมูลรีวิวของคนที่เคยเข้าไปฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกนั้น เพื่อดูความรับผิดช
สรุป
สุดท้ายนี้ หากใครยังสงสัยอยู่ว่า ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ? หรือควรเลือกใช้ filler รุ่นไหน ? จึงจะเหมาะสมกับการแก้ปัญหาหรือเติมเต็มจุดที่ต้องการได้ดีที่สุด แนะนำว่าก่อนตัดสินใจเข้ารับการฉีด เราควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับคุณสมบัติของฟิลเลอร์แท้แต่ละชนิด แต่ละรุ่น/ยี่ห้อ จากนั้นจึงเข้ามาพบหมอ เพื่อสอบถามเพิ่มเติมและให้ช่วยประเมินสภาพใบหน้า รวมถึงให้คำแนะนำในการเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/