วิธีลดริ้วรอยหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว ตัวการหน้าเหี่ยวแก่ก่อนวัย แบบเห็นผล

ริ้วรอยหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว ตัวการสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ หน้าดูแก่กว่าวัย จนหลายคนรู้สึกขาดความมั่นใจ เพราะเห็นริ้วรอยปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างชัดเจนแม้จะไม่ได้แสดงสีหน้าและไม่ได้ยิ้มก็ตาม สำหรับวิธีจัดการปัญหาริ้วรอยหน้าผากจะมีทางเลือกแบบไหนบ้างนั้น เรามีคำแนะนำดี ๆ จากแพทย์มาฝากในบทความนี้ค่ะ

 

2 ประเภทของริ้วรอยบนใบหน้า คืออะไรบ้าง ?

เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าริ้วรอยบนใบหน้าทั้ง 2 แบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร

1. ริ้วรอยแบบตื้น ๆ
ริ้วรอยตื้น หรือ Fine wrinkles คือ รอยตีนกาจาง ๆ เส้นบาง ๆ ที่เริ่มปรากฏขึ้นบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยใต้ตาที่เริ่มเห็นเป็นเส้นจาง ๆ ตอนยิ้ม ซึ่งริ้วรอยเส้นบาง ๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นบนผิวหนังชั้นหนังกำพร้า
ต้นเหตุของริ้วรอยตื้น ๆ มีด้วยกันหลายปัจจัย เช่น ทำความสะอาดผิวหน้ารุนแรงจนเกินไป ผิวหน้าขาดการบำรุง ผิวขาดความชุ่มชื้น รวมถึงมลภาวะรอบตัวเรา ส่งผลให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยขึ้นได้ง่าย

2. ริ้วรอยร่องลึก
ริ้วรอยร่องลึก (Deep wrinkles หรือ skin folds) เมื่อคนเรามีอายุเยอะขึ้น ผิวหนังจะผลิตคอลาเจนและอิลาสตินลดน้อยลงเรื่อย ๆ โครงสร้างของผิวชั้นหนังแท้เกิดหย่อนคล้อยลง จนเกิดเป็นริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด อาทิเช่น หน้าผากเป็นรอยย่น ร่องแก้มมีริ้วรอยร่องลึก รอยตีนกา ระหว่างคิ้วเกิดริ้วรอย โดยเฉพาะเมื่อแสดงสีหน้าหรือยิ้มจะเห็นริ้วรอยชัดเจนมากยิ่งขึ้น

 

ต้นเหตุของการเกิดริ้วรอยหน้าผากคืออะไร ?

หากไม่ดูแลรักษาริ้วรอยหน้าผาก ร่องลึกจะยิ่งเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ

ด้วยวัยที่เพิ่มมากขึ้น คือต้นเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยหน้าผาก จะเห็นเป็นรอยย่นบริเวณหน้าผากชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงริ้วรอยตามบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ระหว่างคิ้วมีรอยย่น ริ้วรอยตีนกา 

หากเราไม่ดูแลร่างกายและสุขภาพผิวหน้าแต่เนิ่น ๆ ยิ่งเวลาผ่านไปริ้วรอยหน้าผากจะยิ่งเกิดเพิ่มขึ้นและเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ รอยย่นหน้าผากผู้ชาย มักจะพบได้บ่อยเพราะขาดการดูแลผิวหน้า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุของใบหน้าที่ดูมีอายุและความเสื่อมโทรมของผิวหน้า ได้แก่

1. ขาดการดูแลปกป้องผิวจากมลภาวะ และแสงแดด
2. ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม หัวเราะ หรือชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
3. ริ้วรอยจากการอดนอนเป็นประจำ ทำงานหนัก ความเครียดจากปัญหาส่วนตัวและการทำงาน
4. ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่

 

ไม่อยากมีริ้วรอยหน้าผาก ควรปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง ?

เมื่ออายุมากขึ้น หรือมีพันธุกรรมคนในครอบครัวมีริ้วรอยบนใบหน้าตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเป็นปัจจัยภายในที่หลีกเลี่ยงการเกิดริ้วรอยหน้าผากได้ค่อนข้างลำบาก ดังนั้น หากจะปกป้องผิวจากการเกิดริ้วรอยอาจต้องมุ่งไปที่ปัจจัยภายนอก อันได้แก่

• กินอาหารให้ครบห้าหมู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ อาหารจำพวกแอนติออกซิแดนท์ ที่จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยหน้าผาก และริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า อย่างเช่น ฟักทอง องุ่นแดง ราสเบอร์รี่ แตงกวา มะละกอ อโวคาโด กล้วย ซึ่งควรเลือกรับประทานผลไม้และผักสดที่ยังไม่ผ่านการปรุงแต่ง
• ระหว่างวันควรดื่มน้ำบ่อย ๆ และดื่มในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งตึง
• งดดื่มเหล้า เบียร์ กาแฟ ชา
• เลิกสูบบุหรี่
• ปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนออกแดด
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการเรียนและการทำงาน

 

อยากขจัดริ้วรอยหน้าผาก มีวิธีไหนให้เลือกบ้าง ?

5 ทางเลือกหลักในการคืนความอ่อนเยาว์ให้กลับคืนสู่ใบหน้า และช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผาก ได้แก่

1. ลดริ้วรอยหน้าผาก ด้วยการทาครีมบำรุงผิวที่มีคุณสมบัติลดเลือนริ้วรอย

ตัวช่วยจัดการกับริ้วรอยหน้าผากให้แลดูจางลง และยังช่วยปกป้องผิวจากการเกิดริ้วรอยร่องลึกเพราะผิวขาดความชุ่มชื้น คือการทาครีมบำรุงผิว ซึ่งมีส่วนผสมดังต่อไปนี้ ที่จะช่วยลดและต่อต้านริ้วรอย ได้แก่

• สารโคเอนไซม์ คิวเทน
• กรดไฮยาลูรอน
• เพนทาเป๊ปไทด์
• ซาโปนิน

ปัญหาริ้วรอยหน้าผาก ร่องแก้ม ริ้วรอยตีนกา/ใต้ตา รอยย่นระหว่างคิ้ว ริ้วรอยบริเวณแก้มไปจนถึงลำคอ ในทุกวันนี้มีครีมบำรุงผิวที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านและลดเลือนริ้วรอยได้เฉพาะจุด มีให้เราเลือกใช้ได้หลากหลายยี่ห้อ สะดวกและใช้ง่าย แต่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่าจะเห็นผล ต้องทาครีมบำรุงผิวอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ อีกทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยส่วนใหญ่จะมีราคาสูงค่ะ

2. ลดริ้วรอยหน้าผากตามแบบฉบับธรรมชาติบำบัด

สำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยหน้าผากแบบประหยัด ไม่ต้องจ่ายแพง สามารถยึดหลักธรรมชาติบำบัด โดยหาวัตถุดิบตามธรรมชาติที่หาได้ง่ายใกล้ตัว มาใช้ในการมาร์คหน้า พอกหน้า อาทิเช่น แตงกวา ว่านหางจระเข้ น้ำผึ้ง โดยทำความสะอาดแล้วนำมาฝานบาง ๆ หรือบางคนอาจนำไปปั่นแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้สัก 20 นาที เพื่อช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า และลดริ้วรอยหน้าผาก ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งค่ะ

แม้จะต้องใช้ความมีวินัย เพราะต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ริ้วรอยหน้าผากอาจไม่หายไปทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ยังช่วยให้ริ้วรอยใหม่เกิดขึ้นช้าลง และริ้วรอยเก่าดูจางลงได้ ผิวหน้าจึงดูสว่างสดใสขึ้นกว่าเดิม

3. มาร์คหน้าผากแบบแผ่นแปะ เพื่อช่วยป้องกันและลดริ้วรอยหน้าผาก

สำหรับใครที่คิดว่าแค่ทาครีมลดริ้วรอยยังไม่เพียงพอ ก็สามารถใช้ตัวช่วยอย่างแผ่นมาร์คแปะผิวบริเวณหน้าผากเพื่อต่อต้านและชะลอการเกิดริ้วรอย ทิ้งไว้ข้ามคืนขณะนอนหลับ แผ่นมาร์กจะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยหน้าผากโดยจะไปบังคับกล้ามเนื้อตรงหน้าผากไม่ให้มีการเคลื่อนไหวขณะที่เรากำลังนอนหลับ 

แผ่นต่อต้านริ้วรอยหน้าผากนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดวก ใช้ง่าย เพียงแปะแผ่นมาร์คบนหน้าผากที่เริ่มมีริ้วรอยก่อนเข้านอน ทิ้งไว้อย่างน้อยสามชั่วโมง หรือถ้าใครไม่รำคาญก็สามารถทิ้งไว้จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเลยก็ได้ค่ะ แม้ในบางคนอาจบอกว่าไม่ค่อยเห็นผล และจำเป็นต้องใช้ระยะเวลานาน ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าเทียบกับราคาที่ไม่แพงก็ถือว่าเป็นวิธีต่อต้านริ้วรอยหน้าผากที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยนะคะ

4. ลดริ้วรอยหน้าผาก ให้หน้าดูอ่อนเยาว์ด้วยการฉีดฟิลเลอร์

ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก พร้อมปรับหน้าผากให้ได้รูปทรงสวยด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ใครที่อยากแก้ปัญหาหน้าผากบุ๋ม หน้าผากแบน อยากเติมเต็มร่องลึกบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า พร้อมปรับรูปทรงหน้าผากให้โหนกนูนสวย รับกับใบหน้าเพื่อเพิ่มเสน่ห์ดูน่าค้นหา การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยลดริ้วรอยหน้าผาก ช่วยให้ใบหน้ากลับมาอ่อนเยาว์ได้อีกครั้งค่ะ 

หลังจากลดริ้วรอยหน้าผากด้วยการฉีดฟิลเลอร์แล้ว ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 1-1.5 ปี โดยจะคงอยู่ได้นานมากน้อยเพียงใดนั้นต้องดูด้วยว่าเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นไหนในการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า เพื่อความปลอดภัยและเห็นผลควรเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ซึ่งเป็นสาร Hyaluronic Acid หรือ HA เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย สลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย และสามารถฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ด้วยค่ะ

5. ลดริ้วรอยหน้าผากด้วยการฉีดโบท็อก (Botox)

การฉีดโบท็อกหน้าผาก คือ วิธีลดริ้วรอยหน้าผากซึ่งเป็นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด หลังจากทำแล้วริ้วรอยบริเวณหน้าผากจะหายไป หน้าดูอ่อนกว่าวัย เพราะฤทธิ์ของโบท็อกจะไปทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ป้องกันการพับของผิวหนังตอนที่เราแสดงสีหน้าไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะ หรือเลิกคิ้ว

รีวิว ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยหน้าผาก เปรียบเทียบก่อน-หลังทำ

การลดริ้วรอยหน้าผากด้วยการฉีดโบท็อก ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ ใช้ตัวยาโบท็อกของแท้ เพื่อความปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงกับอาการหนังตาตกจากตัวยากระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น 

โบท็อกซ์หน้าผาก หลังฉีดเสร็จภายใน 3-4 วันผิวบริเวณที่ฉีดจะเริ่มตึงขึ้น สำหรับการเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงแบบเต็มที่จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ รอยย่นตรงร่องจมูก, รอยเหี่ยวย่นตรงระหว่างคิ้ว, ริ้วรอยหน้าผากก็จะดูลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

สุดท้ายนี้ หากถามว่าควรเลือกวิธีลดริ้วรอยหน้าผากวิธีไหนดีให้เห็นผลเร็ว ทางเลือกอันดับแรก ๆ ที่แพทย์แนะนำก็คือ การฉีดโบท็อกลดริ้วรอยบริเวณหน้าผากค่ะ เพื่อช่วยให้ผิวหน้าผากที่เคยมีริ้วรอยร่องลึกกลับมาเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้งโดยไม่ต้องรอนาน เป็นวิธีที่ปลอดภัยและสะดวก แต่อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อชะลอการเกิดริ้วรอยหน้าผากด้วยอีกทางหนึ่งค่ะ