ทำ hifu ดีไหม

การทำ hifu (ไฮฟู่) สามารถยกกระชับผิวใบหน้า ลำคอ เหนียง รวมทั้งต้นแขน ต้นขาได้ด้วย ซึ่งบรรดาเซเลบ และดารานักร้องต่างทำแล้วได้ผลดี จนเป็นตัวอย่างให้แก่คนที่เข้ามาดูรีวิว ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยต่างนิยมทำ hifu (ไฮฟู่) กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวันนี้  

Hifu ถือเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ เนื่องจากไม่ต้องฉีด ไม่ต้องผ่าตัด  จึงไม่ต้องเจ็บตัว อีกทั้งกรรมวิธีในการทำไม่ยุ่งยากซับซ้อน แต่ข้อสงสัยต่าง ๆ ที่ว่า ทำไฮฟู่ดีไหม? ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล? ทำไฮฟู่แล้วช่วยอะไรได้บ้าง?  ก็ยังคงเป็นคำถามของใครหลายคนอยู่

ทำ hifu ดีจริงไหม หากจะให้เห็นผล จำเป็นต้องทำกี่ครั้ง?

การทำ Hifu ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก จึงเป็นการทำหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง

การทำ Hifu ด้วยเครื่อง UltraformerIII ทำงานโดยการยิงคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูง เข้าไปถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS)

ส่งผลให้ผิวหนังชั้น SMAS หดตัว และเกิดการสร้างคอลลาเจน จึงสามารถช่วยยกกระชับผิว ทำให้ผิวใสขึ้น ดูอ่อนเยาว์ลงกว่าเดิม

การทำ Hifu สามารถทำได้ตั้งแต่วัยรุ่นเพื่อช่วยป้องกันการเกิดร่องแก้ม ร่องใต้ตา ยิ่งทำต่อเนื่องยิ่งได้ผลดีสะสม เพราะช่วยให้ผิวยกกระชับขึ้น  ทั้งนี้ ไม่มีข้อห้ามเรื่องโรคประจำตัว หรือการทานยาต่าง ๆ 

(เครื่อง hifu ที่มีคุณภาพเป็นคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ ทำให้ผิวหนังชั้น SMAS หดตัว  ช่วยยกกระชับผิว มีความปลอดภัยที่สุดในปัจจุบัน)           

ทำ hifu กี่ครั้งเห็นผล?

หลังทำครั้งแรกสามารถเห็นผลได้ทันทีประมาณ 20% ครับ

•         หลังทำไฮฟู่แล้ว ชั้นผิวจะหดตัวจากความร้อนที่ Focus ลงใต้ผิว และจะค่อย ๆ กระชับขึ้นใน 1-2 เดือน
•         เมื่อผ่านไป 2-3 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รูขุมขนเล็กลง ผิวเนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ และผิวยกกระชับ
•         ผลการทำอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน (ทั้งนี้ ผลการรักษาแตกต่างกันแต่ละบุคคล)

ในกรณีที่อยากให้ได้ผลเพิ่มขึ้น อยู่ได้นานยิ่งขึ้น สามารถทำเพิ่มได้หลังทำครั้งแรก 3 เดือน เพื่อให้เซลล์ fibroblast สร้าง collagen ได้เต็มที่ก่อน จากนั้นควรกลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันความหย่อนคล้อยในอนาคตและคงสภาพผลการรักษาไว้ให้นานยิ่งขึ้น

ขอบคุณข้อมูล รีวิว hifu ย้อนวัยให้หล่อ ดูดี มีเสน่ห์แบบพี่ชาคริต ที่ V Square Clinic (11 สาขา) จาก Youtube Channel: V Square Clinic 

ทำ hifu แล้วไม่เห็นผล สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง?

ผู้ที่ทำ hifu แล้วไม่เห็นผล อาจมีสาเหตุได้หลายประการ เช่น

1. หากคลินิกไหนใช้เครื่องไฮฟู่เกรดต่ำ ปล่อยพลังงานออกมาแรงบ้าง เบาบ้าง ไม่คงที่ ไม่มีความสม่ำเสมอ จะส่งผลให้เห็นผลน้อยลง

รวมถึงการใช้เครื่องไฮฟู่ที่ไม่มีคุณสมบัติในการโฟกัส มีลักษณะคือบางจุดร้อน บางจุดไม่ร้อน ทำให้ไม่สามารถปล่อยพลังงานสูงได้ เนื่องจาก shot ที่แรงเกินไป อาจไปทำให้ผิวไหม้ หน้าบวม อาจไปโดนเส้นประสาทจนส่งผลให้หน้าเบี้ยวได้

หมอจึงต้องลดความเสี่ยงด้วยการใช้พลังงานต่ำ ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บตอนยิง แต่ทำแล้วก็จะไม่เห็นผล หรือผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน

ทั้งนี้ การทำ hifu แล้วเห็นผล ยกกระชับได้จริง จะต้องใช้เครื่อง hifu ยี่ห้อดี มีคุณภาพ เช่นนี้จึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน และผลลัพธ์จากการทำจะอยู่ได้นาน

(คุณหมอที่มีความชำนาญ สามารถใช้เครื่อง Hifu เก็บกรอบหน้า ยกกระชับ ลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ)

ในบทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะเครื่อง Hifu ยี่ห้อ UltraformerIII ซึ่งเป็นเครื่อง hifu ยี่ห้อที่มีคุณภาพ และคนในวงการแพทย์ต่างยอมรับว่า ได้ผลดีและคุ้มค่ามากที่สุดครับ

ทั้งนี้คนไข้ควรทำความเข้าใจก่อนว่า Hifu มีหลายเกรด หลายยี่ห้อ โดยคุณภาพจะแตกต่างกันมากในเครื่อง Hifu แต่ละยี่ห้อ 

Hifu คืออะไร? ทำไม? Hifu Ultraformer III ยิ่งทำต่อเนื่องยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

V Square Clinic 

เครื่อง hifu ยี่ห้อ UltraformerIII คุณสมบัติเด่นคือ สามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว อันเกิดจากการยืดออกของคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเกิดขึ้นกับทุกคนเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น 

2. สภาพผิวของแต่ละคน  อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้การทำไฮฟู่แล้วผลที่ได้ในคนไข้แต่ละรายแตกต่างกัน คือ ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวที่ไม่เท่ากัน หากคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยมาก เมื่อทำครั้งแรกก็อาจจะเห็นผลไม่ชัดเจน  จึงต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินก่อนว่า จุดใดบ้างที่คนไข้ต้องการแก้ปัญหา จะได้แนะนำวิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ

สำหรับคนที่ยังลังเลอยู่ว่า ทำ hifu ดีจริงไหม? ควรทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่อง HIFU ที่มีคุณภาพและเป็นของแท้ รวมถึงควรทำกับหมอที่มีความชำนาญ ซึ่งหมอจะเป็นผู้ประเมินใบหน้าก่อนทำเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดดังที่คนไข้ต้องการครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.vsquareclinic.com/