รีวิวฉีดเมโสแฟต ลดแก้มได้จริงหรือ ?
ใครมีปัญหาแก้มเยอะ อยากฉีดเมโสแฟตเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวและดูเล็กลงบ้างคะ ยกมือขึ้น วันนี้น้องไวท์จะมาเล่าประสบการณ์ทำสวยด้วยเมโสแฟตลดไขมันที่แก้มให้ทุกคนฟังกันค่ะ
เริ่มแรกจะขอเล่าย้อนไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้วก่อนว่าน้องไวท์เคยมาฉีดโบท็อกและร้อยไหมที่ V Square Clinic มาครั้งนึงแล้วค่า ครั้งนี้อยากมาปรับรูปหน้าให้เรียวพร้อมลดแก้มยุ้ย ๆ ให้ใบหน้าดูได้รูปมากขึ้น จากผลกระทบช่วงล็อกดาวน์ โควิด-19 ที่ผ่านมาน้องเผลอตัวทานเยอะไปหน่อย แก้มเลยออกเยอะเลย ยังดีที่ช่วงกรามยังไม่กลับมาใหญ่ รอบนี้น้องมาพบคุณหมอวรรณศิลป์ สุขสมานพันธ์ (หรือคุณหมอเพลิน) ฉีดแฟตแก้มค่ะ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นตามมาดูกันเลย
ครั้งที่แล้ว ที่น้องไวท์เคยมาฉีดโบท็อกและร้อยไหมที่คลินิก เปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ เลยค่ะว่าแก้มดูเล็กลงและใบเรียวขึ้นเยอะเลย พอตอนนี้ 3 เดือนผ่านไป หลังจากผ่านการกินขนมอย่างหนักหน่วง เราก็จะแวะมารีวิวฉีดเมโสแฟตสลายไขมันบริเวณแก้มกันค่ะ เพื่อให้หน้าเรียวสวยได้อีกครั้ง
เตรียมตัวก่อนเริ่มฉีดเมโสแฟตแก้ม
รีวิว ฉีดเมโสแฟตครั้งแรก (สัปดาห์แรก)
สัปดาห์แรกที่เข้ามาปรึกษาคุณหมอเพลินแนะนำว่า หากไวท์อยากจะปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยขึ้นควรจะใช้เมโสแฟต และถ้าลองสังเกตใบหน้าไวท์ แก้มฝั่งซ้ายกับฝั่งขวาจะไม่เท่ากันค่ะ แก้มข้างหนึ่งจะเล็กกว่าอีกข้าง ซึ่งเมโสแฟตจะช่วยจัดการกับปัญหาเรื่องแก้มไม่เท่ากันได้ด้วย
รีวิวฉีดเมโสแฟต กับคุณหมอเพลิน เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ลดไขมันส่วนเกินที่แก้ม
คุณหมอเลือกใช้เมโสแฟต บาบิ ปริมาณ 12 cc คุณสมบัติเด่นของ Meso fat ตัวนี้คือเมื่อสลายไขมันส่วนเกินตรงแก้มแล้วจะมีส่วนช่วยให้แก้มของเราไม่ห้อยค่ะ
จากนั้นจึงเก็บกรอบหน้าให้ดูสวยชัดขึ้น ด้วยการฉีดโบท็อกลดกราม ปริมาณ 50 ยูนิต
ฉีดเมโสแฟต รีวิว ขณะที่คุณหมอกำลังฉีดเมโสแฟตแก้ม (ครั้งที่ 1.)
ด้วยความที่คุณหมอเพลินมือเบามาก ขณะที่ฉีดเมโสแฟตบาบิอยู่นั้น ไม่ได้เจ็บมากอย่างที่หลายคนกลัวเลยค่ะ ส่วนตัวไวท์เองไวท์ว่าเฉย ๆ นะคะ รู้สึกเหมือนกับว่าผิวโดนอะไรจิ้มเบา ๆ เท่านั้นเอง
เมโสแฟตบาบิตัวที่ไวท์ฉีดจะเป็นแบบไม่ผสมยาชา จะรู้สึกแสบนิดนึง ไม่ได้แสบมากมายอะไร ถ้าให้เทียบกันแล้วไวท์ว่าตอนหกล้มยังเจ็บกว่าตอนฉีดแฟตแก้มอีกนะ และตัวไวท์เองเลือกใช้ตัวยาเน้น ๆ ไปเลยไม่ต้องผสมยาชาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่เราคาดหวัง เราว่าคุ้มค่ากว่านะคะ
สำหรับการเก็บกรอบหน้าให้ชัด ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ 50 ยู ก็เจ็บไม่เยอะเช่นกัน คุณหมอจะฉีดตรงบริเวณกรอบหน้าก็จะมีรู้สึกเจ็บจิ๊ดเดียวเองค่ะ
รีวิวฉีดเมโสแฟต ก่อนฉีดคุณหมอจะแกะกล่องใหม่ และเปิดขวดยาให้เห็นว่าเป็นของแท้ ของใหม่ 100%
ที่ V Square Clinic ไวท์มั่นใจทุกครั้งที่มาที่นี่ เพราะคุณหมอจะแกะกล่องและเปิดขวดยาให้เห็นกันแบบจะ ๆ กันไปเลย พิสูจน์ให้เห็นถึงความโปร่งใส มั่นใจได้ว่าไม่เจอตัวยาปลอม หลังจากฉีดเสร็จเรียบร้อยแล้วไวท์ก็ขอนำขวดยากลับบ้านไปเช็คต่อได้เลยว่าเป็นตัวยาของแท้ วันนี้ฉีดแฟตแก้มเสร็จเรียบร้อยไปแบบสบาย ๆ ค่ะ ใช้เวลาไม่นานเลยด้วย
(รีวิวฉีดเมโสแฟต) ผลลัพธ์หลังฉีดแฟตแก้มเสร็จทันทีค่ะ
หลังฉีดเมโสแฟตเสร็จทันที จะเห็นว่าใบหน้าจะบวมนิดนึง ซึ่งการฉีดเมโสแฟตหนึ่งครั้ง จะช่วยสลายไขมันบริเวณที่ฉีดลงไปได้ประมาณ 10% นะคะ คุณหมอเพลินนัดให้อีก 1 สัปดาห์ข้างหน้าให้เข้ามาฉีดซ้ำกันอีกรอบหนึ่งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ไวท์ขอแมสก์ปิดใบหน้าช่วงจมูกกับปากกลับบ้านค่ะ แต่เพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวลใจอะไรเลยเพราะประมาณ 2 ชั่วโมง ใบหน้าที่บวมหลังฉีดเมโสแฟตก็จะค่อย ๆ ยุบลงจนหายสนิทไปเอง
รีวิว ฉีดเมโสแฟตครั้งที่ 2 (สัปดาห์ถัดไป)
ผลลัพธ์หลังฉีดเมโสแฟตครั้งแรก วันนี้เราเตรียมเข้ามาฉีดแฟตแก้มครั้งที่ 2 กันค่ะ
ก่อนจะเริ่มฉีดเมโสแฟตครั้งที่ 2 ขอบอกก่อนว่าผ่านไปครบ 1 สัปดาห์แล้ว จากผลลัพธ์ที่เห็นในภาพจะเห็นว่า รูปหน้าของไวท์ดูชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะการฉีดเมโสแฟตครั้งที่แล้วช่วยสลายไขมัน รวมถึงเก็บกรอบหน้าและลดกรามด้วยการฉีดโบท็อกด้วย
วันนี้เราเตรียมตัวมาฉีดซ้ำในสัปดาห์ที่ 2 ค่ะ คุณหมอเพลินเลือกใช้ เมโสแฟต บาบิ 12 cc (เหมือนครั้งแรก) จะเป็นยังไงตามมาดูกันเลยค่ะเพื่อน ๆ
รูป มาฉีดเมโสแฟตกับคุณหมอครั้งที่ 2
ลืมบอกไปว่า การประคบเย็นช่วยให้การฉีดเมโสแฟตเจ็บน้อยลงด้วยค่ะ ในการฉีดครั้งที่สองนี้คุณหมอเพลินบอกว่าจะเน้นปริมาณยาที่มากกว่า ฉีดกับแก้มข้างที่ใหญ่กว่าให้อีกด้วยเพื่อแก้ปัญหาแก้มสองข้างไม่เท่ากัน
ซึ่งตัวไวท์เองก็เลือกฉีดแฟตแบบไม่ผสมยาชาเหมือนครั้งที่แล้วเลยค่ะ ความรู้สึกตอนฉีดก็จะมีแสบนิดหน่อยคล้ายกับครั้งแรก คุณหมอบอกว่าครั้งนี้ฉีดง่ายกว่าครั้งก่อนเนื่องจากไขมันที่เริ่มนิ่มลงจากการฉีดสลายไปแล้วในครั้งแรกนั่นเอง
ก่อนกลับบ้านไวท์ก็ขอแมสก์อำพรางหน้าบวม ๆ กลับบ้านเหมือนเดิมค่า บวมไม่เยอะหรอกนะไม่กี่ชั่วโมงก็ยุบบวมเองได้เหมือนเดิมค่ะ
รีวิว ฉีดเมโสแฟตสัปดาห์ที่ 3
วันนี้แวะมาฉีดแฟตเป็นครั้งที่ 3 แล้วค่ะ ก่อนอื่นไวท์จะพามาดูรีวิว ผลการฉีดเมโสแฟตครั้งที่สอง ใบหน้าฝั่งซ้ายกับฝั่งขวาเริ่มจะเท่ากันแล้ว ไม่เล็กข้างใหญ่ข้างแบบเมื่อตอนก่อนฉีดแล้วค่ะ ถึงน้ำหนักตัวไวท์จะเท่าเดิมแต่หลายคนทักว่าดูผอมลงด้วยนะคะ ผลจากการฉีดเมโสแฟตสองรอบได้ขนาดนี้เรียกว่าประทับใจ
ตัวยาเมโสแฟตที่คุณหมอเพลินเลือกใช้วันนี้คือ FNC-30 ส่วนปริมาณจะเท่าเดิมเหมือนกับสองรอบที่ผ่านมาคือ 12 cc เมโสแฟตยี่ห้อ FNC-30 นี้อาจจะแสบกว่ายี่ห้อบาบิ แต่คุณหมอบอกว่าแก้มจะลงเร็วกว่า ตัวไวท์เองไม่กลัวแสบอยู่แล้ว เพื่อความสวยไวท์ทนได้ วันนี้เลือกแบบไม่ผสมยาชาเช่นเคย
ปรากฏว่าพอฉีดเข้าไป รู้สึกได้ว่าแสบกว่ายี่ห้อบาบิจริงด้วย แต่ก็แสบไม่นานเลยค่ะ แสบแค่แป๊บเดียวเอง ความแสบก็จะค่อย ๆ ลดน้อยลงไปหายแสบไปเลย แนะนำนะคะใครใจแข็งไม่กลัวแสบและอยากเห็นผลดี ๆ แบบไม่ต้องรอนานก็เลือกยี่ห้อนี้ได้เลย
หลังจากฉีดเมโสแฟตครั้งที่ 3. เสร็จทันที หน้าจะบวมบ้างแหละ แต่ก็ไม่บวมเยอะเท่ากับการฉีดแฟตแก้มครั้งแรก รอบนี้คุณหมอบอกว่าฉีดง่ายเลย เพราะไขมันที่เหลวแล้วจากการฉีดสลายไขมันรอบก่อน ๆ ซึ่งหลังจากฉีดสลายไขมันรอบที่สามนี้ ร่างกายจะค่อย ๆ ขับไขมันที่เหลวแล้วออกมาเอง แก้มก็จะยุบสวยงาม
รีวิว ผลลัพธ์หลังจากฉีดเมโสแฟตครบ 3 ครั้ง
ผลลัพธ์หลังฉีดเมโสแฟตครบ 3 ครั้ง (ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4)
เริ่มก้าวเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4. กันแล้วนะคะ หลังจากน้องไวท์ฉีดเมโสแฟตไปครบ 3 ครั้งแล้ว จากภาพรีวิวจะเห็นว่าใบหน้าดูเป็นวีเชพมากขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยแหละ ตัดสินใจถูกจริง ๆ ที่เชื่อคุณหมอเพลินที่เลือกฉีดด้วยเมโสแฟตยี่ห้อ FNC-30 ในครั้งล่าสุด เรามันอดทนต่อความแสบได้อยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นผลลัพธ์แบบนี้ยิ่งรู้สึกคุ้มค่ามาก ๆ ใบหน้าสองข้างจากที่มีปัญหาหน้าซ้ายขวาไม่เท่ากัน แต่ตอนนี้ดูใกล้เคียงกันแล้วค่ะ ถ่ายรูปมั่นใจขึ้นเยอะไม่ต้องเอียงหน้าแล้ว 555
รีวิว เมโสแฟต แบบสรุปรวมทั้ง 3 ครั้งว่าช่วยสลายไขมันที่แก้มได้อย่างไรบ้าง
- รีวิวฉีดเมโสแฟต ครั้งแรก
- เลือกใช้เมโสแฟตยี่ห้อบาบิ ปริมาณ 12 cc.
- ฉีดโบท็อกลดกราม เก็บกรอบหน้า ปริมาณ 50 Units
- รีวิวฉีดเมโสแฟต ครั้งที่ 2
- เลือกใช้เมโสแฟตยี่ห้อบาบิ ปริมาณ 12 cc. โดยคุณหมอเพลินช่วยเน้นตัวยาปริมาณที่มากกว่า กับใบหน้าข้างที่ใหญ่กว่า
- รีวิวฉีดเมโสแฟต ครั้งที่ 3
- เลือกใช้เมโสแฟตยี่ห้อ FNC-30 ปริมาณ 12 cc. ฉีดโดยเน้นตัวยาปริมาณที่มากกว่า กับใบหน้าข้างที่ใหญ่กว่า
เปรียบเทียบผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงก่อนฉีด และหลังฉีดเมโสแฟตแต่ละสัปดาห์
ถ้าให้สรุปถึงความแตกต่างของ 2 ยี่ห้อเมโสแฟต ระหว่างยี่ห้อบาบิ กับ FNC-30 บอกสั้น ๆ ได้เลยว่า
- เมโสแฟตยี่ห้อ บาบิ พูดถึงเรื่องความแสบจะไม่เยอะค่ะ ฉีดแบบไม่ผสมยาชาได้สบาย ๆ จุดเด่นคือจะช่วยป้องกันเรื่องแก้มห้อยหลังจากไขมันบริเวณถูกสลายออกไปแล้ว
- เมโสแฟตยี่ห้อ FNC-30 แก้มจะยุบไวกว่าค่ะ แต่ตอนฉีดจะรู้สึกแสบกว่าตัวยาบาบิ ใครที่อยากเห็นผลเร็วต้องลองชั่งใจดูค่ะ ถ้าคิดว่าทนแสบได้หน่อยก็น่าสนใจมากค่ะ
น้องไวท์แนะนำเลยนะคะให้ลองมาทำที่ V Square Clinic สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี เพราะคลินิกได้มาตรฐาน ใส่ใจลูกค้า คุณหมอมีเทคนิคการฉีดที่ช่วยแก้ปัญหาให้เราได้อย่างตรงจุด ไม่ต้องเสียเวลามากโดยใช่เหตุ ตัวไวท์เองจากที่เคยมีปัญหาใบหน้าสองข้างไม่เท่ากัน ก็ดูไม่ค่อยรู้ว่าต่างกันแล้วค่ะตอนนี้ ต้องขอบคุณคุณหมอและ V Square Clinic มาก ๆ ที่ช่วยให้ไวท์สวยขึ้น ใบหน้าเรียวและได้สัดส่วน กรอบหน้าชัดเป๊ะขึ้นด้วยค่ะ