เสริมจมูกแบบเปิด-แบบปิด คืออะไร อันตรายไหม แบบไหนเหมาะกับใคร?


เสริมจมูก

การเสริมจมูก ทำจมูก ทำดั้งโด่ง เรียกว่าเป็นการศัลยกรรมอย่างแรก ๆ ที่คนไทยเลือกทำ เพราะในกลุ่มคนเอเชีย รวมไปถึงคนไทย ตามลักษณะทางพันธุกรรมมักจะมีฐานจมูกเตี้ยและปีกจมูกกว้าง ทำให้ใบหน้าดูแบน ไม่มีมิติ การศัลยกรรมจมูกให้โด่งขึ้น และตัดปีกจมูกให้แคบลง จึงได้รับความนิยมอย่างมาก

สำหรับใครที่กำลังสนใจเสริมจมูก อยากเสริมจมูกครั้งแรก แต่ยังไม่รู้ว่าทำจมูกทรงไหนดี หยดน้ำ สโลปปลายพุ่ง แบบไหนเหมาะกับเรา หรือเสริมจมูกแบบเปิด-แบบปิด ต่างกันอย่างไร ควรรู้อะไรบ้างก่อนเสริมจมูก แนะนำให้อ่านบทความนี้

เสริมจมูก คืออะไร ?

Rhinoplasty หรือ การเสริมจมูก คือการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อตกแต่งทรงจมูก ทั้งให้สันจมูกโด่งขึ้น ดั้งพุ่ง มีปลายหยดน้ำสวยงามขึ้น ด้วยการเสริมวัสดุต่าง ๆ เช่น ซิลิโคน (Silicone), กอร์เท็กซ์ (Gore-tex), เม็ดพอร์ (Medpor) หรือกระดูกอ่อน หลังทำจะได้จมูกทรงต่าง ๆ เสริมดั้งโด่งขึ้น นิยมทำร่วมกับการตัดปีกจมูด ตะไบฮัมพ์ เพื่อให้ได้จมูกทรงสวย เหมาะกับรูปหน้าแต่ละคน

เสริมจมูก อันตรายไหม ?

การเสริมจมูก ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดเท่านั้น เพราะต้องมีการประเมินโครงสร้างจมูก ฉีดยาชา วางยาสลบ ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย 

รวมไปถึงการเลือกวัสดุต่าง ๆ ที่จะนำมาเสริมจมูก ถ้าใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ บางคนอาจเกิดอาการแพ้ อักเสบ และต้องแก้ไขในภายหลัง ดังนั้นก่อนตัดสินใจเสริมจมูก ควรศึกษาข้อมูล และพิถีพิถันในการเลือกคลินิก โรงพยาบาล รวมไปถึงแพทย์ว่ามีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่าง ๆ ลงได้

ก่อนตัดสินใจเสริมจมูกที่ไหนดี ที่ไหนปลอดภัย ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่

  1. คลินิกเปิดอย่างถูกต้อง มีใบรับรองและใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
  2. ศัลยแพทย์ที่จะทำการผ่าตัด มีความผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์การผ่าตัดเสริมจมูก
  3. ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกเทคนิคการเสริมจมูก ซึ่งมีทั้งการเสริมแบบปิด และ การเสริมแบบเปิด
  4. วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก ต้องมีคุณภาพและปลอดภัย ไม่มีปฏิกิริยาต่อเนื้อเยื่อ
  5. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงที่น่าเชื่อถือ ควรดูรีวิวในเว็บไซต์ที่คลินิกไม่สามารถลบ หรือแก้ไขได้ เช่น Facebook Review, pantip, Wongnai
  6. ไม่ควรดูรีวิวเสริมจมูกที่เป็นรูปภาพเพียงอย่างเดียว ควรดูรีวิวเสริมจมูกที่เป็นคลิปประกอบกันด้วย เนื่องจากตกแต่งแก้ไขได้อยากกว่า
  7. คลินิกมีการติดตามผลหลังทำ ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม และควรมีช่องทางในการติดต่อที่สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถสอบถามแพทย์เจ้าของเคสได้โดยตรง

ใครที่เหมาะสำหรับการเสริมจมูก

  1. เหมาะกับผู้ที่ไม่มีดั้ง ต้องการเสริมสันจมูกให้สูงขึ้น
  2. อยากปรับทรงจมูก ทำให้ใบหน้ามีมิติ
  3. อยากตกแต่งปลายจมูก ให้พุ่งขึ้นหรือเป็นทรงหยดน้ำ
  4. มีฮัมพ์ ทำให้หน้าดูแข็ง
  5. ปีกจมูกกว้าง จมูกบาน อยากแก้ให้แคบลง
  6. รูจมูกไม่สวย สามารถตกแต่งรูจมูกได้

ซึ่งนอกจากการเสริมจมูกจะเป็นที่นิยมทั้งในด้านการเสริมความงาม การเสริมโหงวเฮ้ง ยังสามารถแก้ไขรูปจมูกที่ผิดปกติ จมูกไม่ได้สัดส่วน และช่วยแก้ไขโครงสร้างจมูกที่มีปัญหาทั้งจากความบกพร่องแต่กำเนิดและอุบัติเหตุได้อีกด้วย

รีวิวเสริมจมูก

รีวิวก่อน-หลัง เสริมจมูก หลังทำจะเห็นได้ว่าใบหน้ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน จมูกโด่งขึ้น เป็นทรงสวย มีมิติ

รีวิวเสริมจมูก ด้วยซิลิโคนเก­าหลี

รีวิว เสริมจมูก จากกระดูกซี่โครง

รีวิวเสริมจมูกด้วยซิลิโคน

รีวิว เสริมจมูกซิลิโคนเกาหลี

รีวิว เสริมจมูก 4D TIPBALL

เสริมจมูก ราคาแพง ราคาถูก ต่างกันอย่างไร?

การเสริมจมูกในปัจจุบัน ราคามีตั้งแต่ราคาถูกหลักหมื่น ไปจนถึงราคาแพงมาก ๆ หลักแสน โดยปัจจัยที่ทำให้ราคาเสริมจมูกในแต่ละคลินิกหรือโรงพยาบาลแตกต่างกัน ได้แก่ ชื่อเสียง ความเชี่ยวชาญของแพทย์ ประสบการณ์ของแพทย์ เทคนิคพิเศษในการเสริมจมูก คุณภาพของซิลิโคนที่ใช้ รวมไปถึงโปรโมชั่นทางการตลาดอื่น ๆ บางคลินิกอาจมีส่วนลดให้สำหรับคนที่ทำแล้วกลับมารีวิว ก็จะทำให้ได้ราคาที่ถูกลง

การเสริมจมูก ควรดูที่ความเหมาะสมและความปลอดภัยเป็นสำคัญ ไม่อยากให้มองที่ตัวเงินเป็นหลัก ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน หาข้อมูลแต่ละคลินิกมาเปรียบเทียบกัน ถ้าคุณภาพที่ได้เหมาะสมกับราคา มีความปลอดภัย จึงตัดสินใจทำด้วยความมั่นใจ

เสริมจมูกมีกี่แบบ?

1. การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)

เสริมจมูกแบบเปิด เป็นเทคนิคเสริมจมูกที่มีการเปิดจมูกเข้าไปเพื่อปรับโครงสร้างจมูกโดยตรง ศัลยแพทย์จะเห็นโครงสร้างของกระดูกอ่อน แนวสันจมูก ทำให้ปรับแต่งทรงจมูกได้สะดวก ช่วยหลีกเลี่ยงการใช้ซิลิโคนที่ไม่จำเป็น 

นอกจากนี้สามารถใช้เทคนิคยืดผนังกั้นจมูก ตอกฐานจมูก และบีบเข้ามาเพื่อให้สันจมูกดูเล็กลงได้ ทำทรงจมูกได้หลากหลาย ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้การผ่าตัดแบบ Open Rhinoplasty จะใช้ระยะเวลาทำนานกว่าการเสริมจมูกแบบปิด และศัลยแพทย์ต้องมีความชำนาญในการผ่าตัดแบบโอเพ่น 

การเสริมจมูกแบบเปิด เหมาะกับคนที่มีเนื้อน้อย สันจมูกนูน ฮัมพ์สูง จมูกกว้าง ฐานจมูกใหญ่ ต้องการเสริมเป็นแบบหยดน้ำ ใช้แก้ปัญหาได้ครอบคลุมมากกว่าการเสริมจมูกแบบปิด

การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty)

เสริมจมูกแบบปิด เป็นเทคนิคการเสริมจมูกด้วยการเสริมซิลิโคนเข้าไปให้ดั้งโด่งขึ้น โดยไม่ต้องการปรับโครงสร้างกระดูกอ่อน มีความซับซ้อนน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด แต่จะไม่ได้ทรงจมูกที่พุ่งเท่า การเสริมจมูกแบบปิด นิยมใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูมารองบริเวณปลายจมูก เพื่อลดปัญหาการเสียดสีทำให้ปลายจมูกทะลุ  

การเสริมจมูกแบบปิด ไม่ต้องวางยาสลบ ใช้แค่การฉีดยาชาเท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่จมูกมีโครงสร้างเดิมดีอยู่แล้ว ปลายจมูกไม่สั้น และมีเนื้อหุ้มหนา ต้องการเพิ่มความโด่งหรือยืดส่วนปลายยาวขึ้น แต่อาจมีข้อจำกัดในบางเคส เช่น ดั้งจมูกโค้ง โก่ง งอ จมูกใหญ่ ซึ่งเหมาะกับการทำเทคนิคแบบเปิดมากกว่า นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะทำให้เนื้อเยื่อบางและทะลุได้ 

แนะนำ – ข้อเสีย ของการเสริมจมูกแบบเปิดและแบบปิด

การเสริมจมูกแบบปิด

ข้อดี

  • เหมาะกับเคสเสริมจมูกครั้งแรก ที่ไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูก
  • ไม่ต้องวางยาสลบ แค่ฉีดยาชาเฉพาะจุดที่ทำ 
  • พักฟื้นน้อย เช็คทรงจมูกได้ทันทีหลังทำ
  • ไม่เห็นรอยแผล
  • ใช้เวลาน้อย
  • ราคาถูกกว่าเสริมแบบเปิด

ข้อเสีย

  • ไม่เหมาะแก้ปัญหาจมูกที่ซับซ้อน จากโครงสร้างจมูกได้ เช่น จมูกสั้นเชิด จมูกงองุ้ม
  • ไม่สามารถทำทรงให้โด่งพุ่งมาก ๆ ได้ (ขึ้นอยู่กับกำลังของเนื้อเยื่อจมูก)
  • ใช้ลดขนาดจมูก สันจมูก ให้เล็กลงไม่ได้
  • เมื่อเวลาผ่านไปมีความเสี่ยงเรื่องจมูกทะลุ เอียง เบี้ยว 

การเสริมจมูกแบบเปิด

ข้อดี 

  • เหมาะกับการเสริมจมูกทุกเคส แก้ปัญหาได้หลากหลาย
  • แพทย์จะเปิดแผลทำให้เห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมด 
  • แก้ไขตกแต่งจมูก จากความผิดปกติจากโครงสร้างจมูกได้
  • สามารถตกแต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนกลางจมูก ให้มีลักษณะเป็นหยดน้ำ โดยไม่ต้องใช้การเสริมซิลิโคน
  • ลดโอกาสซิลิโคนทะลุ หรือจมูกเบี้ยวในอนาคต

ข้อเสีย

  • มีแผลเพิ่มใต้จมูก และหากมีการใช้กระดูกอ่อน จะมีแผลบริเวณกระดูกอ่อนมาเพิ่มเช่น ใบหู, ใต้ราวนม, ก้นกบ
  • การผ่าตัดมีความซับซ้อน หากมีผลแทรกซ้อนการแก้ไขจะยุ่งยากขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการทำแบบปิด
  • ใช้เวลาผ่าตัดนาน และต้องวางยาสลบ

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก

1. ซิลิโคน

ซิลิโคนเป็นวัสดุพื้นฐานที่ใช้ในการเสริมจมูก โดยมีข้อดีคือจะได้รูปทรงที่แน่นอน สามารถปรับให้เข้ากับจมูกได้ทุกรูปแบบ ใช้เวลาพักฟื้นน้อย และราคาไม่สูงมาก มีทั้งซิลิโคนสำเร็จรูป (จะขึ้นเป็นทรงมาให้แล้ว) เช่น ซิลิโคนแมนทิส, ซิลิโคนบาร์บี้, ซิลิโคนซินเดอเรลล่า, ซิลิโคนแบบ L-shape และซิลิโคนเหลาเอง (จะมาเป็นแท่งหรือบล็อคสี่เหลี่ยม) แพทย์จะเป็นคนเหลาทรงให้เข้ากับรูปจมูกแต่ละเคส ต้องอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญและความแม่นยำ โดยแบ่งย่อยออกไปอีก 4 ชนิด ตามลักษณะความอ่อน-แข็งของซิลิโคน ได้แก่ แข็ง, แข็งปานกลาง, นุ่ม และนุ่มมาก

วัสดุซิลิโคนที่นำมาเสริมจมูกที่นิยมในปัจจุบัน 

  • ซิลิโคนอเมริกา
  • ซิลิโคนเกาหลี 
  • ซิลิโคนญี่ปุ่น 

2. กระดูกอ่อน

กาารใช้กระดูกอ่อนในการเสริมจมูกแทนซิลิโคน มีข้อดีคือช่วยลดความเสี่ยงที่ปลายจมูกจะทะลุในระยะยาว เพิ่มความหนาของผิวหนังบริเวณปลายจมูก ลดการเสียดสี ป้องกันไม่ให้ซิลิโคนกระทบกับผิวหนังปลายจมูกโดยตรง และทำให้ปลายจมูกดูเป็นธรรมชาติมาก โดยกระดูกอ่อนที่นิมยมนำมาใช้ ได้แก่ กระดูกอ่อนหลังใบหู, กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก (Septum), กระดูกอ่อนซี่โครง

เสริมจมูกผู้ชาย เสริมจมูกผู้หญิง แตกต่างกันไหม ?

  • เสริมจมูกผู้ชาย จะเน้นเสริมให้มีสันจมูกตรงสวยตั้งแต่ช่วงระหว่างคิ้วลงมา เพื่อเพิ่มความคมให้กับใบหน้า และเน้นการทำดั้งโด่งมาก ๆ เพื่อให้คมเข้มมากขึ้น
  • เสริมจมูกผู้หญิง ส่วนมากจะนิยมทำทรงให้โค้ง สันจมูกสโลปลง มีความอ่อนช้อย หน้าดูหวาน หรือถ้าเป็นสายเปรี้ยวก็จะทำให้จมูกเชิด ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น 

เสริมจมูก ตอกฐานจมูก คืออะไร ?

เสริมจมูก ตอกฐานจมูก เป็นผ่าตัดสำหรับผู้ที่จมูกมีฮัมพ์ หรือ Hump Nose ทำให้จมูกดูคด เอียง หน้าดูดุ เนื่องจากสันจมูกที่ไม่เรียบ เป็นคลื่น นูนเป็นหลังเต่าขึ้นมา คนที่มีลักษณะจมูกแบบนี้มักมีปลายจมูกงุ้ม สามารถแก้ไขด้วยการตะไบฮัมพ์ ตอกฐานจมูก (Humpectomy) เพื่อตัดแต่งกระดูกส่วนนูนให้เรียบขึ้น ไม่โก่งนูน และช่วยให้ใบหน้าดูหวาน ละนุมขึ้น หลังทำจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนมาก

รีวิว เสริมจมูกมีฮัมพ์ 

เสริมจมูก เนื้อน้อยทำได้ไหม ?

เนื้อจมูกน้อยก็สามารถเสริมจมูกได้ แต่จะแนะนำให้ใช้การผ่าตัดเสริมจมูกแบบ OPEN เพื่อปรับโครงสร้าง ยืดผนังกั้นจมูก และรองปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู จะทำให้จมูกยาวขึ้นกว่าเดิมโดยไม่รั้งปลาย เนื่องจากคนที่มีเนื้อน้อย มีข้อจำกัดและความเสี่ยง มีโอกาสจมูกทะลุมากกว่าคนทั่วไป ทำความโด่ง หรือความเชิดขึ้นได้ไม่มาก และแพทย์ที่ทำการผ่าตัดต้องมีความชำนาญสูง เพื่อลดโอกาสที่จะทำให้จมูกทะลุ

เสริมจมูกพร้อมตัดปีกจมูก

หลายคนเมื่อเสริมจมูกก็ต้องการปรับปีกจมูกให้เล็กลง พร้อมลดขนาดรูจมูก เพื่อให้สมดุลกับสันจมูกใหม่ ในการลดขนาดปีกจมูกจะแก้ไขเฉพาะส่วนปีกด้านข้าง ซึ่งมีผิวหนังและกล้ามเนื้อ โดยซ่อนแผลไว้บริเวณขอบของปีกจมูก จมูกจะเข้าทรงสวย ไม่เห็นผล 

เลือกทรงจมูกอย่างไร ให้เหมาะกับใบหน้า?

การเลือกทรงจมูก ไม่ใช่ว่าเราเห็นดาราคนนี้มีจมูกทรงนี้แล้วสวย อยากทำให้เหมือน โดยไม่ได้คำนึงว่าจมูกทรงนั้นเข้ากับรูปหน้าเราหรือไม่ จะทำให้สัดส่วนใบหน้าดูแปลก และไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นในการเลือกทรงจมูก ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้

  1. ทรงจมูกรับกับหน้าผากหรือไม่? เช่น คนที่มีหน้าผากแบน อาจไม่เหมาะกับการเสริมซิลิโคนสูง ๆ เพราะจะทำให้ดูหลอกตา ไม่เข้ากับใบหน้า 
  2. ทรงจมูกควรรับกับโครงหน้าด้านกว้าง เช่น คนที่โหนกแก้มใหญ่ ไม่ควรเสริมซิลิโคนบริเวณกลางจมูกให้สูงมาก
  3. ทรงจมูกควรรับความยาวของใบหน้า ได้แก่ ไรผม – สันจมูก / สันจมูก – ปลายจมูก / ปลายจมูก – คาง เป็น 3 ส่วนที่ควรมีความยาวสมดุลกัน

ถ้าใครไม่มั่นใจ ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ออกแบบทรงจมูกที่เข้ากับใบหน้าเฉพาะของแต่ละคน

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก

  1. ปรึกษาแพทย์ เลือกทรง วางแผนการเสริมจมูก
  2. แจ้งข้อมูลโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ ปัญหาเกี่ยวกับฟัน การแพ้ยา แพ้อาหาร
  3. ก่อนทำแนะนำให้งดการใช้ยาสมุนไพร ยาบำรุง และวิตามินทุกชนิด อย่างน้อย 7 วัน เช่น ยาแก้ปวด แอสไพริน วิตามินซี วิตามินดี น้ำมันปลา
  4. งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง
  5. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือ 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  6. งดแต่งหน้า งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อย แหวน จิลต่าง ๆ บนร่างกาย และควรสระผมก่อนให้เรียบร้อยก่อนผ่าตัด
  7. งดการทาเล็บมือ, เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
  8. งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดตามแพทย์สั่ง ในกรณีผ่าตัดโดยฉีดยาชาเฉพาะจุด (เทคนิคแบบปิด) ไม่ต้องงด

ขั้นตอนการเสริมจมูก

  1. เมื่อเริ่มผ่าตัด หมอจะให้ยาชาหรือยานอนหลับ (ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการผ่าตัด) เช่น หากใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดจะต้องใช้การวางยานอนหลับโดนวิสัญญีแพทย์ ส่วนการผ่าตัดแบบปิดจะเป็นการฉีดยาชาเฉพาะจุด
  2. แพทย์จะใช้เทคนิคการเสริมจมูกที่เหมาะกับปัญหาของแต่ละเคส ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง (แล้วแต่ความซับซ้อน)
  3. เย็บปิดแผลผ่าตัด หรือในบางกรณีแพทย์อาจให้เข้าเฝือกที่จมูกด้วย ใช้เวลาพักฟื้น 5-7 วัน ระหว่างนี้คนไข้สามารถดูแลทำความสะอาดแผลได้ด้วยตัวเอง ก่อนนัดมาติดตามผลและตัดไหม

ผลข้างเคียงหลังเสริมจมูก

หลังทำจมูกอาจมีอาการข้างเคียง เช่น ใต้ตาบวม เขียวช้ำ มีเลือดออก บ้วนปากแล้วมีเลือดลงคอ อึดอัดจมูก ตึงบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งควรดูแลตัวเองย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม และคุ้มค่ากับที่เจ็บตัวไป 

การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก

  1. 72 ชั่วโมงแรก ควรประคบเย็นด้วยคูลแพ็คบริเวณหน้า เพื่อช่วยเพื่อให้เลือดหยุดไหล และยุบบวมไวขึ้น 
  2. หลัง 72 ชั่วโมง แผลจะเริ่มสนิทกัน ให้เปลี่ยนมาใช้การประคบอุ่นเพื่อลดรอยเขียว ช้ำ ม่วง
  3. ห้ามแคะ แกะ เกา หรือขยี้บริเวณจมูก
  4. ควรนอนโดยใช้หมอนรองคอ ให้ศีรษะสูง เพื่อให้เลือดไม่คั่งในโพรงจมูก และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ หรือกดทับใบหน้า
  5. งดล้างหน้า เพื่อไม่ให้บาดแผลโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน หลังจากนั้นล้างหน้าได้ตามปกติ
  6. หลีกเลี่ยงการไปในที่ที่มีฝุ่นละอองมากประมาณ 1 สัปดาห์ ป้องกันการไอหรือจาม
  7. ควรรับประทานอาหารอ่อน งดอาหารแข็ง เหนียว เคี้ยวยาก
  8. งดรับประทานอาหารหมักดอง หรืออาหารที่มีรสเผ็ดจัด เพราะจะส่งผลต่อการอักเสบของแผล และทำให้แผลหายช้า
  9. งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และหยุดการสูบบุหรี่ ในช่วง 1 เดือน หลังทำจมูก มีผลต่อการสมานแผล 
  10. หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาหนัก ๆ การวิ่ง, การว่ายน้ำ, การมีเพศสัมพันธ์, การสั่งน้ำมูก, การขยี้จมูก, ก้มหน้านาน ๆ และยกของหนัก เนื่องจากเนื้อจมูกยังไม่เข้าที่ดี
  11. หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

เสริมจมูกใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน? 

การเสริมจมูก ใช้เวลาพักฟื้น 5-7 วัน ระหว่างนี้ให้ดูแลตัวเองตามพี่หมอแนะนำ และจะมีนัดติดตามผล ตัดไหม ในช่วง 7 และ 14 วัน จากนั้นอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น จนยุบบวมไปในที่สุด ระยะเวลาที่จมูกเข้าที่ ประมาณ 3-6 เดือน

Q & A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเสริมจมูก

Q : เสริมจมูกแล้วอยู่ถาวรไหม?

การเสริมจมูกอยู่ได้ถาวร โดยไม่มีอันตราย ถ้าไม่มีปัญหาเอียง เบี้ยว อักเสบ หรือไม่ต้องการเปลี่ยนทรง 

Q : เสริมจมูกเจ็บไหม?

ถ้าพูดถึงขณะกำลังผ่าตัด ทั้งสองเทคนิคแบบเปิดและแบบปดจะมีการวางยาหรือฉีดยาชา เพราะฉะนั้นจะไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ หลังทำอาจมีผลข้างเคียง ปวด บวม เป็นปกติ สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้

Q : ฉีดฟิลเลอร์จมูก แล้วมาเสริมจมูกได้ไหม?

หากเคยฉีดฟิลเลอร์จมูกมา แล้วอยากปรับแก้เป็นการเสริมซิลิโคน สามารถทำได้ ไม่มีผลข้างเคียง

Q : แผลเสริมจมูกกี่วันเข้าที่ กี่วันหายบวม?

หลังเสริมจมูก อาจมีเลือดออกจมูก บ้วนปากแล้วมีเลือดลงคอ ปวดหัวตา หรือรู้สึกอึดอัดจมูก เป็นอาการปกติ แผลต่าง ๆ สามารถหายไปเองตั้งแต่ช่วง 7 วันแรก

Q : เสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง?

ส่วนใหญ่หลังเสริมจมูกทานได้หมด โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยให้แผลสมานเร็ว ลดบวม ลดอักเสบ เช่น ไข่ไก่ หมู เนื้อ ปลาน้ำจืด ไก่ ผลไม้สีเข้ม (เชอร์รี บลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี ราสเบอร์รี) สาหร่าย น้ำมะพร้าว ฯลฯ 

Q : หลังเสริมจมูกห้ามกินอะไร หลัง 1 เดือนกินอะไรได้บ้าง?

หลังจากเสริมจมูก และแผลหายสนิท จมูกเริ่มเข้าที่ดีแล้ว สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ