ใครที่อยากปรับผิวให้แน่นกระชับ แก้ปัญหาริ้วรอย ขอให้มามุงค่ะ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Sculptra หนึ่งในหัตถการงานผิวที่กำลังฮอตมากในตอนนี้
Sculptra คืออะไร ? มีหลักการทำงานอย่างไร ? ปลอดภัยไหม ? เหมาะกับใคร ? สนใจฉีดต้องเตรียมตัวอย่างไร ? บทความนี้รวมคำตอบไว้ให้หมดแล้วค่ะ ไปดูกันเลย!
ทำความรู้จัก! Sculptra คืออะไร ?
Sculptra คือ นวัตกรรมฟื้นฟูผิว ที่ใช้สาร PLLA หรือ Poly-L-Lactic Acid ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
Sculptra หรือ สเกาตร้า เป็นเทคโนโลยีการฟื้นฟูผิวแบบใหม่ที่ช่วยบำรุงผิวจากภายในฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเรียบเนียน ดูอ่อนวัยขึ้น ถือเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติตัวแรกของโลก (The First & Original Collagen Biostimulator) ที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากถึง 66.5% จึงสามารถทดแทนคอลลาเจนที่ร่างกายของเราสูญเสียไปจากอายุที่เพิ่มขึ้นได้
หลักการทำงานของ Sculptra
Sculptra ทำงานอย่างไร ทำไมถึงกระตุ้นคอลลาเจนได้ ?
Sculptra จะทำงานผ่านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อฉีด Sculptra เข้าไปในชั้นผิวหนัง (ชั้นลึก -Subcutaneous) ร่างกายจะตอบสนองดังนี้
- เมื่อร่างกายตรวจพบอนุภาคของ poly-L-lactic acid (PLLA) ในเนื้อเยื่อ ระบบภูมิคุ้มกันจะส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดต่าง ๆ เข้ามาที่บริเวณนั้น เพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามา
- เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาจ (macrophages) จะเข้ามาล้อมรอบอนุภาค PLLA และพยายามย่อยสลายมัน แต่เนื่องจาก PLLA ย่อยสลายได้ช้ามาก กระบวนการนี้จึงกินเวลานาน
- ในระหว่างที่พยายามย่อยสลาย PLLA แมคโครฟาจจะปล่อยสารเคมีบางชนิดออกมา เรียกว่า growth factors ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (fibroblasts) ทำงานมากขึ้น
- เซลล์ไฟโบรบลาสต์เป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการเสริมความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง เมื่อถูกกระตุ้นจะสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ขึ้นมาแทนที่เส้นใยเดิมที่เสื่อมสภาพ
ในระยะยาว คอลลาเจนและอิลาสตินที่สร้างใหม่นี้จะค่อย ๆ เพิ่มความหนาและความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ทำให้เกิดการฟื้นฟูโครงสร้างของผิวจากข้างในอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวกระชับเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
คอลลาเจนสำคัญอย่างไรกับผิวของเรา ?
ในผิวหนังของเรามีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบถึง 75% ค่ะ ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นอีกด้วย
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายของเราจะมีอัตราการสูญเสียคอลลาเจนเพิ่มขึ้น แต่กลับสร้างขึ้นใหม่ได้ลดลง ผิวหนังจึงเริ่มหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ แห้งกร้าน และเริ่มมีริ้วรอย หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะยิ่งสังเกตเห็นริ้วรอยร่องลึกชัดเจน เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องใต้ตา
มีคนเคยศึกษาไว้ค่ะ ว่าอายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายของเราจะสูญเสียคอลลาเจนถึง 1.5% ต่อปี และการสร้างคอลลาเจนจะลดลงเหลือเพียง 20-30% ในช่วงวัย 30 ปี
ดังนั้นการฉีด Sculptra จะสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่สามารถฟื้นฟูสภาพผิวที่เคยเสื่อมสภาพ หย่อนคล้อยให้กลับมาอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นอีกครั้ง
Sculptra เหมาะกับใคร ?
สำหรับใครที่สงสัยว่า หัตถการนี้เหมาะกับตัวเองหรือไม่ ? เรามาดูกันค่ะ ว่า Sculptra เหมาะกับใครบ้าง ?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย : สำหรับใครที่รู้สึกผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวเริ่มหย่อนจนกรอบหน้าไม่ชัดเท่าเดิม Sculptra ช่วยยกกระชับผิว ปรับผิวแน่น และอิ่มฟู ดูมีน้ำมีนวลได้ค่ะ
- ผู้ที่ไม่ได้ดูแลผิวมาเป็นเวลานาน : การเริ่มดูแลตัวเองไม่มีคำว่าสายค่ะ หากไม่ได้ดูแลผิวมาเป็นเวลานาน ต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงจากโครงสร้างภายใน หัตถการนี้ตอบโจทย์ค่ะ
- ผู้ที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ให้ผิว : หากยังไม่มีปัญหาผิวมาก การฉีด Sculptra ช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ คงความอ่อนเยาว์ให้ผิว ผิวกระชับเหมือนผิวเด็ก และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยาวนาน : Sculptra ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก จึงคงผลลัพธ์ได้นานถึง 2 ปี เหมาะกับผู้ที่ขี้เกียจเข้าคลินิกความงามบ่อย ๆ เป็นที่สุด
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย : เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นจนมองเห็นร่องลึกชัดเจน เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก Sculptra ช่วยเติมร่องริ้วรอยให้ตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะเป็นคอลลาเจนที่ร่างกายเราสร้างขึ้นใหม่เองค่ะ
Sculptra มีข้อควรระวังและข้อห้ามในบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร มีประวัติการแพ้รุนแรง หรือแพ้ส่วนผสมของ Sculptra (PLLA, Carboxymethylcellulose หรือ CMC, และ Non-pyrogenic mannitol) แนะนำว่าถ้ามีโรคประจำตัวควรแจ้งให้คุณหมอทราบก่อนฉีดทุกครั้งค่ะ
Sculptra ปลอดภัยไหม ?
หลาย ๆ คนอาจกังวลว่า Sculptra อันตรายไหม ? เพราะเป็นหัตถการที่เพิ่งได้ยินชื่อเมื่อไม่นานมานี้ในประเทศไทย ไม่คุ้นหูเท่ากับฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การฉีด Sculptra มีความปลอดภัยค่ะ ด้วยเหตุผล ดังนี้
- Sculptra ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น U.S. FDA และอย.ไทย
- Sculptra ใช้อนุภาค PLLA-SCA ที่ผ่านกระบวนการผลิต สิทธิบัตรของบริษัท Galderma สามารถฉีดเข้าชั้นผิวได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- Sculptra ใช้งานทางการแพทย์มาเป็นเวลากว่า 20 ปี (ตั้งแต่ปี 1999) มีงานวิจัยรองรับกว่า 50 ฉบับ ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกค่ะ
- อนุภาค PLLA-SCA ของ Sculptra เป็นสารสกัดจากพืช สามารถย่อยสลายได้หมด ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
ฉีด Sculptra กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีด Sculptra จำเป็นต้องรอให้ร่างกายเริ่มสร้างคอลลาเจนค่ะ อดใจรอนิดนึงนะคะ จะเริ่มเห็นผลในสัปดาห์ที่ 3 และผลลัพธ์ชัดเจนใน 3 เดือน คงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 25 เดือนหรือ 2 ปีค่ะ
Sculptra ต้องฉีดกี่ครั้ง ?
แนะนำให้ฉีด Sculptra จำนวน 2-3 ครั้ง เว้นทุก ๆ 4-6 เดือน จากนั้นจะสามารถคงสภาพผิวได้นาน 2 ปีค่ะ ในเคสของผู้ที่ยังไม่ค่อยมีปัญหา ฉีดครั้งละ 1 ขวด ก็เพียงพอแล้ว แต่หากอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือผิวมีปัญหามาก ๆ จะแนะนำครั้งละ 2 ขวด
เตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra
การเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากค่ะ ทุกคนสามารถทำตามแนวทางง่าย ๆ เหล่านี้
- เว้นระยะจากการทำหัตถการอื่น ๆ อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของคุณหมอ
- งดยาหรือวิตามิน เช่น ยาแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อป้องกันการเกิดอาการฟกช้ำ
- งดสูบบุหรี่หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนฉีด 1-3 วัน
- แจ้งโรคประจำตัวหรือยาที่กินเป็นประจำกับคุณหมอทุกครั้ง
ขั้นตอนการฉีด Sculptra
ขั้นตอนในแต่ละคลินิกความงามอาจแตกต่างกัน แต่โดยรวม มีดังนี้
- ปรึกษาและประเมินสภาพผิวกับคุณหมอค่ะ สามารถสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับหัตถการได้เลย และคุณหมอจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง ทั้งก่อนและหลังฉีด Sculptra
- เตรียมผิวก่อนฉีด Sculptra และแปะยาชา ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
- หมอเตรียม Sculptra ให้อยู่ในรูป Active Form ปกติเวลาแกะกล่องแล้ว Sculptra จะมีลักษณะเป็นผง PLLA Powder ในขวดสุญญากาศค่ะ จำเป็นต้องผสมน้ำกลั่นปราศจากเชื้อลงไป ใน 1 ขวดจะฉีดได้ 10 CC
- หมอฉีด Sculptra ที่พร้อมแล้วเข้าสู่ผิวที่ความลึก 1.5-2 cm ด้วยเข็มทู่ โดยจะฉีดยากระจายไปตามจุดสำคัญที่ช่วยในการยกกระชับใบหน้า เช่น ขมับ หน้าแก้ม และกรอบหน้า
- หลังฉีด Sculptra จำเป็นต้องนวดหน้าต่อ เพื่อให้ยากระจายได้ทั่วถึง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในจุดที่ต้องการ
ดูแลตัวเองหลังฉีด Sculptra
การดูแลตัวเองหลังฉีด Sculptra ช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์มีประสิทธิภาพ และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงค่ะ
- นวดหน้าตามหลัก Triple 5 คือ การนวดวันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที ติดต่อกัน 5 วัน
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า ทาครีมบริเวณรอยเข็ม อบซาวน่า เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงพื้นที่กลางแจ้ง และรังสี UV ให้มากที่สุด จนกว่าอาการบวมแดงจะหายเป็นปกติ
- หากต้องการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้า ควรเว้น 2-4 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์
ฉีด Sculptra ที่ไหนดี ?
หากทุกคนมีเพื่อนที่เคยทำหัตถการนี้ ลองถามได้เลยค่ะ ถ้าประทับใจ เพื่อนป้ายยาต่อแน่นอน แต่สำหรับใครที่หาข้อมูลด้วยตัวเอง เรามาดูกันค่ะ ว่าควรเช็กอะไรบ้าง ?
- คลินิกความงามที่เปิดถูกต้องตามกฎหมาย มีใบอนุญาต 11 หลัก แสดงไว้ชัดเจน
- ฉีดกับแพทย์ที่ผ่านการอบรม คุณหมอจะมีใบรับรอง (Certificate) ที่เกี่ยวข้องค่ะ เช็กได้จากเว็บไซต์ของคลินิกความงามที่คุณหมอประจำอยู่
- ใช้ Sculptra ของแท้ เช็กได้จากเลขทะเบียนอย. เอกสารกำกับการใช้ยา สติกเกอร์โมโนแกรมบนกล่อง หรือสแกน QR Code เพื่อเช็กผ่านแอปพลิเคชัน eZTracker
- ค้นหาชื่อคลินิกที่สนใจจากเว็บไซต์ของบริษัท Galderma ประเทศไทย ในหน้า Find a Clinic จะแสดงว่าคลินิกนั้น ๆ มีผลิตภัณฑ์ใดของบริษัทบ้าง มี Sculptra จริงไหม
- ส่องรีวิวค่ะ ควรเลือกคลินิกที่อัปเดตรีวิวสม่ำเสมอ มีทั้งแบบรูปภาพและคลิปวิดีโอ เปรียบเทียบการแต่งหน้าของเคสรีวิวว่า Before-After แตกต่างกันมากไหม
สรุป
Sculptra เป็นอีกตัวเลือกฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง แน่นกระชับ และแก้ปัญหาริ้วรอยได้ เหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาเข้าคลินิก หรือไม่ได้ดูแลตัวเองเป็นเวลานาน หากสนใจควรฉีดกับคุณหมอที่ผ่านการอบรมการฉีดอย่างถูกต้อง และเช็กตัวยาของแท้ทุกครั้งค่ะ