ปรับรูปหน้า หรือจะเลือก ทำศัลยกรรม แบบไหนดีกว่ากัน ?


ฉีดปรับรูปหน้า หรือศัลยกรรม เลือกทำอย่างไหนดี

A : ฉีดปรับรูปหน้า หรือ ศัลยกรรม เลือกทำอย่างไหนดี ?

B : คนไข้ควรเลือกโดย ดูจากความต้องการของตนเองเป็นหลักครับ

ย่อมต้องดูความต้องการของคนไข้เป็นหลักว่าจะปรับรูปหน้าในลักษณะไหน ยกตัวอย่างเช่น หลายคนใฝ่ฝันอยากจะปรับรูปหน้าให้เหมือนกับคุณอั้ม พัชราภา ย่อมจะเป็นไปไม่ได้ที่การฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ จะทำได้ ดังนั้น ต้องใช้การปรับรูปหน้าด้วยการทำศัลยกรรมประกอบด้วย โดยอาจจะทำศัลยกรรมเพียงแค่บางจุด แล้วในบางจุดก็ใช้การฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์เป็นตัวช่วยครับ

ในบางจุดนั้นการฉีดก็ไม่สามารถทดแทนได้ ทำให้ต้องพึ่งการทำศัลยกรรม ยกตัวอย่างเช่น การทำศัลยกรรมเสริมจมูก, ทำตาสองชั้น และทำปากกระจับ

ส่วนในเคสที่ต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ดูดีขึ้น สามารถเลือกใช้การปรับรูปหน้า เช่น การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้เต็มและลดริ้วรอย อันเป็นตัวช่วยที่สามารถปรับรูปหน้า แก้ปัญหาร่องแก้มลึก โดยที่ใบหน้าของคนไข้จะเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย จะยังคงมีความเป็นตัวเขาเองอยู่ ซึ่งการฉีด filler จะช่วยให้ใบหน้าใบหน้าดูเด็กลงได้ ดูกระชับยิ่งขึ้น ดูอ่อนกว่าวัยได้ครับ

ฉีดปรับรูปหน้าหรือศัลยกรรม-ทำอะไรก่อนดี

A : ถ้าอยากสวยแบบ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน การปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกคือคำตอบหรือไม่?

B : ใช่ครับ เนื่องจากการทำหัตถการบางอย่าง (เช่น การฉีดโบท็อก) ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น

การไม่ต้องพักฟื้นนาน คือข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ ที่เหนือกว่าการทำศัลยกรรม การฉีดโบท็อกเพื่อปรับรูปหน้า อาจมีเพียงรอยเข็มบนใบหน้าเพียงเล็กน้อยหลังทำ ซึ่งจะไม่เกิดอาการอักเสบหรือบวม การทาแป้งพัฟ หรือคอนซีลเลอร์ ให้หนาขึ้นกว่าวันปกติเล็กน้อย สามารถป้องกันไม่ให้ใครมองเห็นว่ามีรอยเข็มจากการฉีดโบท็อกบนใบหน้าได้ด้วย

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อการปรับรูปหน้า ในบางจุดอาจจะเกิดอาการบวมเข็มขึ้นได้ แต่จะบวมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้บวมมากจนต้องกังวลว่าจะมีใครสังเกตเห็นได้ เปรียบเทียบได้กับคนที่เพิ่งตื่นนอนจากการนอนหลับไปนาน ๆ เท่านั้นครับ

แต่ถ้าเป็นการทำศัลยกรรม คนไข้จะยังไม่สามารถพบปะผู้คนได้หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว อย่างเช่น ในการทำตาสองชั้น ผ่าตัดดึงหน้า เสริมจมูก หรือเสริมคาง หลังจากการทำศัลยกรรมจะต้องใช้ระยะพักฟื้นประมาณ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 1 เดือนเป็นอย่างน้อย เนื่องจากจะมีอาการบวม ช้ำ เขียว

A : ควรฉีดปรับรูปหน้า หรือ ศัลยกรรม ดี หากต้องการให้คางยาวขึ้นกว่าเดิม?

B : ต้องผ่าตัดครับ กรณีที่ต้องการให้คางยาวมากๆ

ในเคสที่เสริมแบบทำให้คางยาวมากขึ้นเยอะ ๆ จะทำให้คนอื่นมองแล้วก็จะรู้เลยว่าไปทำศัลยกรรมคางมา เพราะจะมีช่วงรอยต่อที่อยู่ระหว่างซิลิโคนกับแนวกราม อันถือเป็นข้อเสียของเทคนิคของการผ่าตัดเสริมคางในทุกวันนี้ ที่ยังดูไม่เป็นธรรมชาติมากนัก

เนื่องจากการเสริมคางด้วยซิลิโคนนั้นจะไม่สามารถเสริมออกมาทางด้านข้างได้ สาเหตุก็เพราะแนวบริเวณนั้นจะประกอบไปด้วยเส้นประสาทจำนวนมาก หากแพทย์ใช้ซิลิโคนเซาะเข้าไปย่อมเสี่ยงที่อาจทำให้ปากเบี้ยวแบบถาวรได้

วิธีที่จะสามารถช่วยแก้ไขตกแต่งได้ก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ สำหรับคนไข้ที่เคยเข้ารับการทำศัลยกรรมเสริมคางมาแล้วแต่ผลที่ได้ออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติ ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องให้แพทย์ช่วยประเมินใบหน้าว่าสามารถจะทำได้หรือไม่ หากทำได้ แพทย์จะใช้ฟิลเลอร์เติมในช่วงที่เป็นรอยต่อ บริเวณระหว่างซิลิโคนคางกับแนวกรามเพื่อช่วยให้ดูเนียนขึ้นกว่าเดิม

ขอบคุณข้อมูล: สร้างสัดส่วนหน้าให้เป๊ะ แค่เติมฟิลเลอร์คางก็สวยได้! จาก Youtube Channel: V Square Clinic 

A : หลายคนเชื่อว่า ศัลยกรรมมีความปลอดภัยกว่า การฉีดปรับรูปหน้าด้วย โบท็อก ฟิลเลอร์ จริงหรือไม่?

B : ไม่เป็นความจริงครับ

การฉีด ฟิลเลอร์ หรือโบท็อก เพื่อช่วยปรับรูปหน้า หากเปรียบไปก็มีส่วนคล้ายกับการตัดผม ถ้าไม่ชอบทรงนั้นเราก็แค่รอให้ผ่านไปทรงผมก็จะค่อย ๆ กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ซึ่งฟิลเลอร์ โบท็อกก็เช่นเดียวกัน คือหากทำแล้วไม่ชอบผลที่ออกมา เพียงแค่คนไข้รอเวลาให้ผ่านไปสัก 1-2 เดือน ก็จะค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมได้เอง

หรือในผู้ที่ไม่อยากจะรอนานและไม่ชอบผลการฉีดมากจริง ๆ ก็สามารถขอให้แพทย์ช่วยแก้ไข ณ จุดนั้นได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องรอเวลาก็ได้เช่นกัน ฉะนั้น หากฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ชอบ แพทย์สามารถใช้การฉีดสลาย เพื่อให้ฟิลเลอร์หายไปภายในระยะเวลาแค่ 3-4 วันเท่านั้น  ในขณะเดียวกันถ้าเป็นการผ่าตัดทำศัลยกรรม ถ้าเราเลือกไม่ดีย่อมจะแก้ไขยาก หรือบางกรณีแทบจะแก้ไขไม่ได้เลยครับ

A : ปรับรูปหน้าด้วย โบท็อก ฟิลเลอร์ ผลที่ได้ไม่สามารถอยู่ได้อย่างถาวร และมีราคาแพง แล้วคุ้มไหมที่จะทำ ?

B : คุ้มมากครับ

ในเคสคนไข้ที่มีเนื้อยุบลงไปในบางจุด การผ่าตัดศัลยกรรมจะไม่สามารถช่วยให้เนื้อที่อยู่ข้างล่างตื้นขึ้นมาได้

ฉะนั้น จึงต้องใช้โบท็อก ฟิลเลอร์ เท่านั้นจึงจะสามารถช่วยได้สำหรับการปรับรูปหน้าในบางจุดครับ อย่างในกรณีนี้ ถึงแพทย์จะดึงให้ตึงมากเพียงไรเนื้อก็ยังจะดูโบ๋อยู่ดี แพทย์ก็จำเป็นต้องใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยให้เนื้อบริเวณนั้นดูเต็มขึ้นกว่าเดิม

ฉีดปรับรูปหน้าหรือศัลยกรรม-ทำอะไรก่อนดี

A : Harmony ของใบหน้าคือ? และเกี่ยวข้องยังไงในการปรับรูปหน้า?

B : Harmony ก็เปรียบได้กับการที่เรานำจมูกของ คุณอั้ม พัชราภา มาใส่บนใบหน้าให้เป็นจมูกของเรา เราก็ไม่สามารถจะสวยได้เหมือนคุณอั้ม พัชราภา ครับ (หากอยากจะสวย ก็ควรทำให้รับกันทั้งหมดบนใบหน้า)

หากเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ คือ แพทย์จะมีทฤษฎี มีหลักการ มี Golden Ratio (สัดส่วนทองคำ) ซึ่งใช้ในการปรับรูปหน้า แพทย์ทุกคนย่อมเคยผ่านการศึกษาองค์ความรู้เหล่านี้มาแล้วครับ อีกทั้งยังผ่านการทำ Case มาเยอะมาก ย่อมจะสามารถประเมินได้ว่า คนไข้แต่ละรายนั้นควรทำให้ออกมาในสัดส่วนยังไง คนไข้จึงมั่นใจได้ครับหากเลือกทำกับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/blogs/filler-or-surgery/

ขอบคุณบทความดีๆจาก http://www.plasticsurgeryissue.com/

,