ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรปฏิบัติตัวอย่างไร หากต้องการให้ผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน


ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการทำหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในทุกวันนี้

คุณหมอจึงได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติ และ ข้อห้ามต่าง ๆ ที่คนไข้ควรทำในการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้น และลดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา-2-CC

(การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ คืนความสดใสให้กับเจ้าของใบหน้า)

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

แพทย์จะติดพลาสเตอร์ให้ตามรอยเข็มที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลังฉีดเสร็จทันที และสามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้เมื่อครบ 1 ชั่วโมง  โดยในบริเวณที่ทำ อาจมีอาการเขียวช้ำ บวมแดง หรือคัน แต่ห้ามกด นวด แตะ หรือแกะเกา ในบริเวณนั้น เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ หรืออักเสบได้

ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 2-3 วันอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองตามลำดับ แต่หากผ่านไป 3 วันแล้วอาการบวมแดงยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น คนไข้ควรกลับมาที่คลินิกเพื่อให้แพทย์ตรวจเช็คและรับยาไปกินเพิ่มเติม

ในส่วนของข้อห้ามที่ว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จ ห้ามล้างหน้า ห้ามทาครีมหรือไม่ แต่งหน้าได้ทันทีหลังทำหรือไม่ ซึ่งคนไข้หลายท่านยังคงกังวลสงสัยอยู่นั้น คุณหมอได้อธิบายไว้เป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้

  •         เพื่อช่วยบรรเทาอาการบวมให้ลดลงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ควรอยู่ในอากาศเย็น ๆ
  •         สามารถแต่งหน้าออกไปทำงานได้ตามปรกติหลังจากการฉีด filler ใต้ตา
  •         ควรงดทาครีม 1 คืน ตรงบริเวณรอยเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  •         ในคนไข้รายที่มีอาการปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ สามารถกินยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้ในทุก ๆ 4 ชั่วโมง
  •         สามารถล้างหน้าได้โดยใช้สบู่อ่อน ๆ และให้ใบหน้าโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที
  •         ในขณะล้างหน้า ไม่ควรขัดหรือนวดหน้า
  •         งดเว้นการอบซาวน่า หรือทำทรีทเม้นต์ เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์

ข้อปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์_หลังทำ

 ข้อปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์_หลังทำ

อีกข้อห้ามหนึ่งคือเรื่องของการกินอาหาร โดยในช่วงระยะเวลา 14 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คนไข้ควรงดอาหารเหล่านี้ครับ

  •         งดกินอาหารจำพวกของหมักดอง และอาหารดิบ
  •         งดเว้นการกินอาหารที่ต้องนั่งอยู่หน้าเตาร้อน ๆ อย่างพวกชาบู หมูกระทะ
  •         อาหารประเภทรสจัดทุกชนิด เช่น เผ็ดจัด หวานจัด เค็มจัด
  •         งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

ขอบคุณข้อมูล: รีวิวฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มใต้ตากับคุณนิโคลที่ V Square Clinic จาก Youtube Channel: Vsquare Clinic

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  •         ควรดื่มน้ำมากๆ วันละ 1.5-2 ลิตร เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู ได้รูป และช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
  •         ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น การสัมผัสอากาศร้อน เช่น แสงแดด เตา หรือกระทะร้อน ๆ  
  •         ใน 2-3 คืนแรกหลังทำ ควรนอนยกหัวให้สูงกว่าระดับหน้าอก โดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ แต่ไม่ควรนอนตะแคง เพื่อป้องกันการกดทับหน้า ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา
  •         ในช่วงเวลา 3 วันหลังฉีดใต้ตา ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะหรือบ่อยเกินไป เพราะอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ที่ทำไว้เคลื่อนที่จนผิดตำแหน่งได้
  •         ควรรับประทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำ อย่างต่อเนื่องให้ครบถ้วน เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
  •         ควรงดสูบบุหรี่ จะทำให้ผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง และยุบบวมช้าลง เนื่องจากในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด

ต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบ่อยแค่ไหน หากต้องการแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ และริ้วรอยใต้ตา?

โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานถึงประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้ ซึ่งคนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ และถ้าฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายไปเองได้หมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา

เจสซี่ ฟิลเลอร์ใต้ตา1cc

หากแต่ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังเข้าใจผิด จากคำกล่าวที่ว่า ถ้าไม่กลับมาฉีดซ้ำฟิลเลอร์ซ้ำเป็นประจำบ่อย ๆ ใบหน้าจะยิ่งเหี่ยวลง หรือแก่ลง ซึ่งคุณหมอได้ให้คำอธิบายว่า หลักการของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการฉีดเพื่อช่วยชะลอความแก่ อันเกิดจากปัญหาใต้ตาคล้ำ หรือปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา

ซึ่งส่วนมากมักเกิดจากการยุบตัวลงของโครงสร้างกระดูก อันเนื่องมากจากวัยที่ล่วงเลยไปมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดเพื่อให้ใบหน้ายังดีอยู่ ไม่เสื่อมลงเร็ว  ฉะนั้น คำพูดที่ว่าถ้าฉีดแล้วหยุดฉีดหน้าจะแก่ลงนั้นจึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

หลังจากทุกท่านได้อ่านและทำความเข้าใจถึงข้อควรปฎิบัติ และข้อห้ามหลังฉีดฟิลเเลอร์ใต้ตาแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และเพื่อความปลอดภัยของคนไข้เองครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.vsquareclinic.com/