ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ อีกหนึ่งตัวช่วยที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าที่หมองคล้ำ ไม่สดใส ดูโทรม โดยเกิดจากปัญหาการมีใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยบริเวณใต้ตา และใต้ตาลึก
ถือเป็นหัตถการที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันนี้ เพราะสามารถช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์ มีชีวิตชีวา ได้อีกครั้งหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องรอนาน
ฉะนั้น เพื่อการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นไปอย่างถูกต้อง ช่วยส่งเสริมผลการรักษาให้ดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์อีกด้วย
บทความในวันนี้จึงได้รวบรวมคำแนะนำจากแพทย์ เกี่ยวกับข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รวมถึงข้อปฏิบัติที่ควรรู้สำหรับการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างถูกต้องครับ
ข้อควรปฏิบัติสำคัญหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ควรทราบมีอะไรบ้าง?
- แนะนำว่า ในช่วง 2-3 คืนแรกหลังทำ ระวังไม่นอนกดทับใบหน้า แนะนำให้นอนโดยใช้วิธีหนุนหมอนอย่างน้อย 2 ใบที่ศีรษะ เพื่อให้หัวอยู่สูงกว่าหน้าอก
- ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด คนไข้จึงควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผลที่ได้จากการฉีดอยู่ได้สั้นลงหรือยุบบวมได้ช้าลงกว่าปกติ
- หากมียาที่แพทย์สั่งจ่ายให้หลังทำ เพื่อช่วยลดอาการบวมและป้องกันการติดเชื้อ คนไข้ควรรับประทานยาให้ครบถ้วนและสม่ำเสมอ
- ควรดื่มน้ำวันละประมาณ 1.5-2 ลิตร เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ คนไข้จึงควรดื่มน้ำในปริมาณมากในแต่ละวัน เพื่อส่งเสริมให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานยิ่งขึ้น และช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูปด้วยครับ
- ในช่วงประมาณ 3 วันแรกหลังฉีดเสร็จ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนผิดตำแหน่งได้ คนไข้จึงไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ
- หลีกเลี่ยงการไปเจอกับอากาศร้อน ๆ ควรดูแลตัวเองให้มากเป็นพิเศษ ระวังไม่ออกไปตากแดดจัด ๆ
https://www.youtube.com/watch?time_continue=10&v=OsE8Vuhymoc&feature=emb_logo
ขอบคุณข้อมูล: รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น ดูสดชื่น ตาไม่ดำ ไม่โหลไม่ดูโรยรา ช่วยหน้าดูเด็กลง
จาก Youtube Channel: V Square Clinic
ข้อห้ามที่ต้องระวัง หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเมื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในคนไข้บางรายอาจเกิดอาการบวมแดง คัน หรือเขียวช้ำขึ้นได้ในบริเวณที่ฉีด ซึ่งแพทย์แนะนำว่าควรงดเว้นการไปแกะเกา แตะ นวด หรือกดในบริเวณนั้น เพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อ และหลังฉีดเสร็จทันทีแพทย์จะติดพลาสเตอร์ยาให้ตามรอยเข็มในจุดที่ฉีด พอครบ 1 ชั่วโมงแล้วคนไข้สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้เองครับ
ส่วนอาการเขียวช้ำ บวมแดง หรือคันที่อาจเกิดขึ้นนั้น ถือเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้โดยเราไม่ควรกังวล เพราะอาการพวกนี้สามารถดีขึ้นเองได้ตามลำดับภายในช่วงเวลา 2-3 วัน
นอกจากนี้ เมื่อครบระยะเวลา 3 วันไปแล้ว หากอาการบวมแดงยังไม่ดีขึ้นเลย แนะนำว่าคนไข้ควรกลับไปที่คลินิกเพื่อให้แพทย์ช่วยตรวจเช็คอาการอีกครั้ง เพื่อรับยากลับไปรับประทานเพิ่มเติมต่อไปครับ
ข้อสงสัยและความกังวลต่าง ๆ มักเกิดกับคนไข้หลายคน ที่อาจยังไม่ทราบถึงข้อปฏิบัติตัว และข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาทิเช่น ล้างหน้าได้หรือไม่ หรือจะโดนแดดนอกบ้านได้หรือไม่ บทความในวันนี้จึงนำคำแนะนำจากแพทย์มาสรุปเป็นข้อ ๆ ให้ดังข้อมูลด้านล่างนี้ครับ
- เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว การแต่งหน้าออกนอกบ้านสามารถทำได้ตามปรกติ
- การล้างหน้าโดยใช้สบู่อ่อน ๆ สามารถทำได้ครับ หากแต่ควรล้างหน้าเบา ๆ ไม่ขัด ถู หรือนวดหน้าในระหว่างล้างหน้า อีกทั้งยังไม่ควรให้ใบหน้าโดนน้ำเกินกว่า 15 นาทีด้วย
- งดเว้นการทาครีมบำรุงผิวตรงบริเวณรอยเข็มหลังฉีด 1 คืนแรก
- ช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด ไม่ควรเข้าซาวน่า หรือทำทรีทเม้นต์ทุกชนิดบนใบหน้า
- พยายามอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็น ไม่ควรโดนแดดจัด เพื่อให้อาการบวมหายได้เร็วยิ่งขึ้น
- 1 คืนแรกหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถรับประทานยาแก้ปวด paracetamol (พาราเซตามอล) ที่ทางคลินิกให้ไปได้ทุก ๆ 4 ชั่วโมงหากคนไข้มีอาการปวดระบมบริเวณรอยเข็ม
ช่วงระยะเวลาประมาณ 2 อาทิตย์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว คนไข้ควรรับประทานอาหารอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการทานอาหารบางประเภท ดังนี้
- งดเว้นการทานอาหารประเภทที่ต้องนั่งกินหน้าเตาร้อน ๆ ตัวอย่างเช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง หรือชาบู เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารประเภทของหมัก ของดอง รวมทั้งของสุก ๆ ดิบ ๆ
- งดเว้นการทานอาหารรสจัดทุกประเภท ทั้งรสเค็มจัด เผ็ดจัด หรือหวานจัด
หากต้องการแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา และใต้ตาดำคล้ำ จะต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบ่อยแค่ไหน?
(การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ คืนความสดใสให้กับเจ้าของใบหน้า)
หากเป็นฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายไปเองได้หมดทั้ง 100% โดยไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างใด ๆ ครับ นอกจากนี้ เรายังสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ด้วยภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างเหมาะสม ซึ่งโดยปกติแล้วฟิลเลอร์จะสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับว่าเลือกใช้ยี่ห้อไหนและรุ่นอะไรในการฉีดด้วยครับ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นได้ โดยมีหลักการคือเป็นการฉีดเพื่อชะลอวัยอันเกิดจากปัญหาใต้ตาหมองคล้ำและริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา เนื่องจากเมื่อคนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น โครงสร้างกระดูกย่อมจะเกิดการยุบตัว จึงนิยมฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยให้ใบหน้ายังดูดีอยู่ ไม่เสื่อมไปตามวัย ฉะนั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่ามากที่สุด คนไข้ควรศึกษาถึงข้อห้าม–ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดังที่แพทย์ได้ให้คำแนะนำไว้ทั้งหมดข้างต้นครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/tips/do-dont-under-eyes-filler/
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ที่นี่ : https://www.prachachat.net/public-relations/news-537725