ฉีดโบท็อกตีนกา เมื่อคนเรามีวัยที่เพิ่มขึ้น ร่างกายจะค่อย ๆ ผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงเรื่อย ๆ เกิดการเสื่อมสภาพของอิลาสตินและคอลลาเจน ผิวหนังจึงมีความยืดหยุ่นลดลง ส่งผลให้รอยตีนกาและริ้วรอยบริเวณรอบดวงตายิ่งเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาและรอยตีนกาคือปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ เกิดขึ้นเพราะผิวหนังบริเวณรอบดวงตามักเกิดการขยับบ่อย ๆ เมื่อเรายิ้ม หัวเราะ และแสดงสีหน้า การฉีดโบท็อกตีนกา คือ อีกหนึ่งทางออกที่ช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนกว่าวัยได้อีกครั้ง เพราะสามารถช่วยลบเลือนริ้วรอยหางตา ริ้วรอยตีนกา และบทความในวันนี้ได้รวบรวมคำแนะนำต่าง ๆ จากแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญมาเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ต่อไปครับ (ตีนกา ริ้วรอยใต้ตา เกิดจากการรอยยับของผิวที่เมื่อแสดงสีหน้ายิ้ม หัวเราะ เห็นเด่นชัดเมื่ออายุมากขึ้น) ฉีดโบท็อกตีนการาคาแพงไหม เท่าไหร่? ฉีดโบท็อกตีนกา ที่ V Square Clinic แนะนำก็คือ โบท็อกยี่ห้อ Botulax ของประเทศเกาหลี ปริมาณ 25 U สำหรับฉีดเพื่อลดริ้วรอยใต้ตา หางตา ใต้ตา ในราคาประหยัด เพียง 2,500.- บาทเท่านั้นครับ การฉีดโบท็อกตีนกา เพื่อให้คนไข้ได้ฉีดโบท็อกอย่างคุ้มค่า รวมทั้งเหมาะกับปัญหาของคนไข้แต่ละรายมากที่สุด แพทย์จะเป็นผู้ประเมินก่อนทำว่า ควรฉีดด้วยโบท็อกยี่ห้อใด ใช้ในปริมาณเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม…

ฉีดโบท็อก ราคา แพงไหม? รวม โปรโมชั่น โบท็อก ราคาประหยัด ที่ V Square Clinic เท่านั้น ฉีดโบท็อก ราคาเท่าไหร่ แพงมากไหม ฉีดแล้วจะได้ผลลัพธ์ออกมาคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ เหล่านี้ล้วนเป็นคำถามของหลายคนที่กำลังให้ความสนใจต้องการฉีดโบท็อก เพื่อลดริ้วรอยบริเวณต่าง ๆ , ฉีดโบปรับใบหน้าให้เรียวได้รูป, และฉีดให้หน้าใส หน้าตึง เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน อันที่จริงแล้วการฉีดโบท็อก ราคาของการเสริมความงามประเภทนี้ไม่แพงครับ สามารถทำได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แพทย์มักจะแนะนำให้ทำเป็นอันดับต้น ๆ ในผู้ที่อยากจะเสริมความงามซึ่งอาจจะไม่เคยทำอะไรกับหน้ามาก่อนเลย เพราะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน มีความคุ้มค่า ปลอดภัย การฉีดโบท็อก ราคา ไม่สูงเลยครับในปัจจุบัน โดยจะมีราคาที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าจะเลือกฉีดในจุดใดบ้าง โดยจะมีโปรโมชั่นโบท็อกซ์ที่หลากหลายจากทางคลินิกต่าง ๆ ออกมาให้ลูกค้าได้เลือกทำกันอยู่เสมอ สำหรับจุดที่คนไข้มักนิยมฉีดกันมาก ก็คือ โบท็อก ราคาประหยัด สุดคุ้ม กับโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะที่ V Square Clinic ลด 50% โบท็อก ราคา ในแต่ละแบรนด์…

โบท็อกอเมริกา ราคา ในทุกวันนี้เรามักได้ยินคำพูดที่บอกต่อ ๆ กันว่า โบท็อกอเมริกา ราคา แพงที่สุดเป็นเพราะคุณภาพของ botox จากประเทศนี้ดีที่สุด อีกทั้งเรายังพบเห็นโฆษณาโบท็อกอเมริกา อังกฤษ เกาหลี และโบท็อกยี่ห้อต่าง ๆ กันบ่อยมากขึ้นกว่าในอดีต หากแต่คนจำนวนไม่น้อยยังคงสงสัยอยู่ว่า คำกล่าวเหล่านี้เป็นความจริงหรือไม่? คำอธิบายจากแพทย์เกี่ยวกับคุณสมบัติของโบท็อกแต่ละประเทศ ได้ถูกรวบรวมไว้ในบทความนี้แล้วครับ เพื่อผู้อ่านสามารถใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกฉีดโบท็อกว่าแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติเหมือนกัน หรือแตกต่างกันยังไงบ้าง Botox โบท็อก อเมริกา ราคาเท่าไหร่? แพงมากไหม คุ้มค่าหรือไม่เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับ? โบท็อก Allergan แบรนด์จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทแรกเริ่มที่เป็นคนคิดค้นโบท็อกขึ้นมา ทำให้มีการนำ สารโบทูลินั่ม มาใช้ในลดเลือนริ้วรอย ได้มีการผลิตมาแล้วนานกว่า 40 ปี และถูกใช้ในวงการแพทย์มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1989 เป็นต้นมา ได้มีข้อมูลยืนยันถึงการศึกษาค้นคว้าและวิจัยมากกว่า 3,500 ชิ้นที่ได้รับการยอมรับว่ามีความน่าเชื่อถือ ผู้คนทั่วโลกจึงต่างให้ความสนใจและนิยมใช้โบท็อกอเมริกายี่ห้อนี้กันอย่างแพร่หลายโดยทั่วไป ฉะนั้น จึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะใช้โบท็อก Allergan เพื่อช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากโบท็อกอเมริกาตัวนี้คือแบรนด์แรกที่ได้รับ FDA สหรัฐอเมริกา หากเทียบกับโบท็อกจากประเทศอื่น โบท็อกอเมริกา…

ฉีดโบท็อกลดกราม คือ หัตถการที่มีคนนิยมทำเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบันนี้ เนื่องจากสามารถลดกรามลง ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยมากขึ้น มีราคาที่ไม่แพง รวมทั้งไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน หรือมีช่วงกรามเหลี่ยม และโครงหน้าของคนไทยส่วนใหญ่สามารถใช้โบท็อกฉีดเพื่อปรับรูปหน้าได้อย่างเห็นผล ฉีดโบท็อกลดกราม ที่ไหนดี คือคำถามที่หลายคนอาจกำลังสงสัย ซึ่งแนวทางที่ใช้ในการพิจารณาเลือกคลินิกฉีดโบท็อกที่ได้มาตรฐาน เห็นผลจริง ปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงกับการไปเจอหมอปลอม หรือโบท็อกปลอม นั้นได้รวบรวมไว้ในบทความนี้ครับ ฉีดโบท็อกลดกราม ที่ไหนดี คนไข้ควรศึกษาให้ดีก่อนว่าจะ ฉีดลดกราม ที่ไหนดี เพราะถ้าตัดสินใจพลาดไปฉีดกับหมอปลอม ฉีดในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดโบท็อกไปโดยไม่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียต่าง ๆ ตามมาได้ในภายหลัง เช่น ปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด ยิ้มแข็ง และในคนไข้บางเคสถึงแม้กรามจะลดลงจริง แต่กลับมีแก้มที่ตอบลงกว่าเดิม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องศึกษาหาข้อมูลให้เข้าใจเป็นอย่างดีก่อนว่า ปัญหาที่คนไข้กำลังกังวลใจอยู่นั้นเหมาะที่จะฉีดโบท็อกไหม? ซึ่งการฉีดโบท็อกลดกรามจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ แต่ผิวหนังไม่หย่อนคล้อย ซึ่งสิ่งที่ควรพิจารณาให้ดีก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ มีดังนี้ครับ ฉีดโบท็อกลดกราม ที่ไหนดี วิธีเลือกคลินิกให้ปลอดภัย ได้มาตรฐาน แพทย์มีความเชี่ยวชาญมากพอ หรือไม่ แพทย์ที่ฉีดโบท็อกควรมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบใบหน้าคนไข้ ให้ออกมาสวยงามได้สัดส่วน เนื่องจากการปรับสมดุลใบหน้าเป็นหัวใจสำคัญของการฉีดโบท็อก แพทย์ควรจะเลือกรุ่น…

การฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว การฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว เป็นการฉีดโบท็อกบนใบหน้าอีกบริเวณหนึ่งซึ่งกำลังเป็นที่ความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน นอกเหนือไปจากการฉีดเพื่อลดกราม และลดรอยตีนกา บริเวณระหว่างคิ้วคือจุดที่มักจะเกิดริ้วรอยเกิดได้ง่ายจากการแสดงสีหน้าและอารมณ์ หลายคนมักถูกทักว่าหน้าดูมีอายุ ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส สาเหตุจากการมีรอยย่นเกิดขึ้นตรงระหว่างคิ้ว เพราะจุดนี้คือจุดสังเกตที่คนมองเห็นได้อย่างชัดเจน คนไข้จำนวนไม่น้อยจึงอยากจะแก้ไขด้วยการการฉีดโบท็อกระหว่างคิ้วเป็นอันดับต้น ๆ เพื่อให้ผิวหนังส่วนบนเรียบขึ้นกว่าที่เคย เพราะ botox ที่ฉีดเข้าไปจะไปยับยั้งไม่ให้กล้ามเนื้อมัดนี้เกิดการหดตัวครับ โบท็อกระหว่างคิ้ว โบท็อกมีกระบวนการทำงานอย่างไร จึงสามารถช่วยลดริ้วรอยได้ โบท็อก (Botulinum toxin A) คือ สารที่ออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ รวมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอยอันเป็นปัญหาหนักใจของคนจำนวนมากโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ที่แม้ว่าจะทาครีมบำรุงผิวหน้าชนิดใดแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยี่ห้อไหนที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วเท่ากับการฉีดโบท็อกซ์ ด้วยเหตุนี้โบท็อกจึงกำลังได้รับความนิยมจากผู้คนที่ต้องการชะลอวัย การเลือกฉีดโบท็อกระหว่างคิ้วในคลินิกที่ได้มาตรฐาน กับคุณหมอที่มีความชำนาญ คือปัจจัยสำคัญที่คนไข้ควรพิจารณา ด้วยเหตุที่ว่าตำแหน่งระหว่างคิ้วถือเป็นบริเวณที่ยากและมีความเสี่ยงในการฉีดโบท็อก เพราะมีเส้นประสาทจำนวนมากอยู่ในบริเวณดังกล่าว และเมื่อเราแสดงอารมณ์หรือสีหน้าต่าง ๆ หลังจากฉีดโบท็อกระหว่างคิ้วเรียบร้อยแล้ว จะไม่เกิดรอยพับเพิ่มขึ้นและกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดไปนั้นจะไม่เกิดการขยับ โบท็อกซ์จึงช่วยลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วครับ หลังการฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน ก่อนอื่นคนไข้ควรทราบข้อมูลก่อนว่า จะไม่สามารถรักษาผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดโบท็อกให้อยู่ได้อย่างถาวรตลอดไป ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 3-4 เดือนโดยประมาณ ความลึกของริ้วรอยเหี่ยวย่น ปริมาณกล้ามเนื้อของคนไข้ที่แตกต่างกัน ตำแหน่งที่คุณหมอทำการฉีด ปริมาณและยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าผลที่ได้จากการฉีดโบท็อกบริเวณระหว่างคิ้วจะอยู่ได้นานมากเพียงไร สิ่งสำคัญคือ…

ข้อห้าม หลังฉีดโบท็อก ในทุกวันนี้ผู้คนต่างให้ความสนใจและนิยมฉีดโบท็อก (โบทูลินั่ม ท็อกซิน) กันมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นการทำหัตถการที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องรอนาน โดยปรกติจะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน และราคาไม่แพง หากเราละเลยการปฏิบัติตัวตามขั้นตอนที่เหมาะสม อาจต้องฉีดโบท็อกบ่อยขึ้น ซึ่งจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดดื้อโบท็อกง่ายขึ้นด้วยนอกจากจะเสียเงินมากขึ้นแล้ว ในบทความนี้คุณหมอจะมาเล่าถึงงานวิจัยล่าสุดอย่างเจาะลึก เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตัวทั้งก่อนฉีดและหลังฉีดโบท็อกอย่างไรจึงจะช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานยิ่งขึ้น กลไกการออกฤทธิ์ของโบท็อกเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำความเข้าใจก่อนเป็นอันดับต้น ๆ เพราะจะช่วยให้คนไข้เข้าใจในวิธีปฏิบัติตัวก่อนฉีด-หลังฉีดโบท็อกว่าทำเพื่ออะไร และเมื่อเข้าใจเป็นอย่างดีแล้วย่อมจะจำง่ายยิ่งขึ้นด้วยครับ โบท็อก คือ โปรตีนที่มีลักษณะเป็นในน้ำใส ๆ และจะแยกเป็น 2 ส่วนหลังจากที่ฉีดเข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อแล้ว         ส่วนที่ 1 คือ ส่วนที่จะถูกดูดซึมเข้าไปเก็บเอาไว้ในเซลล์ประสาท เป็นส่วนเดียวเท่านั้นที่จะออกฤทธิ์ ถ้าส่วนนี้มีความเข้มข้นสูงจะช่วยให้ผลการฉีดโบท็อกอยู่ได้นานมากขึ้น         ส่วนที่ 2 เป็นส่วนที่ไม่ถูกดูดซึม ซึ่งภายในช่วงเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงหลังฉีดส่วนนี้จะปลิวไปตามกระแสเลือด เสียไปฟรีๆ โดยไม่มีผลต่อเซลล์อื่น ๆ ของร่างกาย เพราะจะถูกขับออกไปจากร่างกายในที่สุด…

ฉีดปรับรูปหน้า A : หากอยากหน้าเด็กลง อยากสวยขึ้น เราต้องทำอย่างไรบ้าง? B : การจะบอกว่าใบหน้าจะสวยหรือไม่นั้น เราควรพิจารณาหลาย ๆ องค์ประกอบร่วมกันจึงจะตัดสินได้ว่าสวยครับ และคนไข้ส่วนใหญ่ที่เข้ามาที่คลินิกเพื่อปรึกษาคุณหมอ ก็มักจะมีสิ่งที่ต้องการแก้ไขอยู่ในใจอยู่แล้วว่าต้องการแก้ไขเพิ่มเติมในจุดไหน ตรงไหนบ้าง ซึ่งการตกแต่งแก้ไขที่ใช้การฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ ช่วยได้ มีตัวอย่างดังนี้         ต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง         ต้องการให้ใบหน้ามีมิติมากยิ่งขึ้น         คนไข้ที่อยากปรับสัดส่วนให้ใบหน้าแลดูยาวขึ้น         อยากมีใบหน้าที่เรียวเล็กลง สำหรับปัญหาที่ไม่เหมาะที่จะใช้การฉีดโบท็อก หรือฟิลเลอร์ในการแก้ไขนั้น ได้แก่         หากคนไข้อยากจะจมูกโด่งมากขึ้นกว่าเดิม คุณหมอแนะนำว่าควรผ่าตัดเสริมจมูก         หากคนไข้ที่อยากมีตาสองชั้น เหมาะกับการผ่าตัดศัลกรรมทำตาสองชั้นมากกว่า  ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้เป็นหลัก…

ฉีดโบท็อก กินปลาร้าได้ไหม? ฉีดโบท็อก กินปลาร้าได้ไหม ? กินอะไรได้บ้าง แล้วอาหารประเภทใดบ้างที่ควรงด คือคำถามที่คนจำนวนไม่น้อยต่างสอบถามเข้ามา ทั้งกับทางคุณหมอโดยตรงและผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ในบทความนี้คุณหมอจึงได้รวบรวมคำตอบ มาช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการดูแลตัวเองในเรื่องอาหารการกินหลังฉีดโบท็อกซ์ครับ ฉีดโบท็อก กินปลาร้าได้ไหม? ข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้มีอะไรบ้าง? ส้มตำปลาร้า คือ อาหารจานโปรดของใครหลายคน หลังฉีดโบท็อก กินปลาร้าได้ไหม จึงเป็นคำถามที่หลายคนมักจะสอบถามกับทางคุณหมออยู่เสมอ และเมื่อได้พูดคุยกับคนไข้คุณหมอจึงได้ทราบข้อมูลว่า คนไข้บางรายทานส้มตำใส่ปลาร้าเป็นเมนูหลักในชีวิตประจำวันกันเลย เช่น บางคนทานส้มตำปลาร้าสัปดาห์ละ 3-4 มื้อ จึงได้เข้าใจว่าเหตุใดคนไข้จึงดูกังวลว่าจะไม่สามารถทานเมนูโปรดจานนี้ได้ภายหลังจากฉีดโบท็อกซ์   ความเชื่อตามสมัยโบราณมักจะบอกต่อกันมาว่า เมนูอาหารประเภทปลาร้า รวมถึงของหมักดองต่างๆ อีกหลายเมนู นั้นเป็นของแสลง ถ้ากินเข้าไปแล้วจะไปกระตุ้นให้แผลเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และทำให้แผลหายช้าอีกด้วย ในความเห็นส่วนตัวหมอก็อยากแนะนำให้คนไข้ควรงดสักระยะหนึ่งหลังฉีดโบท็อก เพราะถึงแม้จะยังไม่มีงานวิจัยชิ้นใดออกมายืนยันเกี่ยวกับความเชื่อเหล่านี้  แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาหารประเภทนี้อาจปนเปื้อนเชื้อโรคจากกรรมวิธีที่ไม่สะอาด และไม่ได้มาตรฐาน และเมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้วอาจจะไปกระตุ้นให้แผลจากรอยเข็มที่ฉีดโบท็อกอักเสบเกิดขึ้นมาก็เป็นได้ หลังฉีดโบท็อก ควรงดอาหารอะไรบ้าง? เพื่อความปลอดภัยแผลหายเร็ว หลังจากเข้ารับการฉีดโบท็อกแล้ว อาหารที่คุณหมอไม่แนะนำให้รับประทาน นอกจากปลาร้าแล้ว มีดังนี้ ควรงดอาหารรสจัด ทั้งที่มีรสเค็มจัด เผ็ดจัด คุณหมอมักแนะนำให้หลีกเลี่ยงหลังจากเข้ารับการรักษาแล้วประมาณ 3-7 วัน…